รีวิว New YAMAHA GRAND FILANO เท่ห์กว่าเดิม มาพร้อมสีใหม่

รีวิว New YAMAHA GRAND FILANO มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง

YAMAHA GRAND FILANO เป็นรถจักรยานยนต์ออโตเมติกที่ได้รับความนิยมมาหลายเจนเนอเรชั่น หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 ด้วยดีไซน์สไตล์ยูโรเปี้ยน คลาสสิกก็ได้รับความนิยมมาเรื่อย ๆ

จนในปี 2018 ได้ยกระดับและพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นไปอีกด้วยการเปิดตัว YAMAHA GRAND FILANO HYBRID ซึ่งถือเป็น“ออโตเมติกไฮบริดรุ่นแรก” ของไทย ด้วยสมรรถนะที่ดีขึ้น ดีไซน์โดดเด่นและสีสันสวยงาม ทำให้ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ

ในปี 2022 ได้มีการอัพเดทเพิ่มความทันสมัยให้มากขึ้น โดยมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้

ไฟ DRL ด้านหน้าปรับปรุงดีไซน์ใหม่จากขีดแนวขวางเป็นขีดแนวตั้งยาวลงมา
ไฟเลี้ยวด้านหน้าดีไซน์ใหม่ เรียวยาวคมชัดและปรับเป็นไฟ LED
ชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่มีความเรียวยาว และปรับเป็นไฟ Full LED ทั้งไฟเบรกและไฟเลี้ยว
หน้าจอ Full Digital LCD จากเดิมที่ยังเป็นแบบผสมกับเข็มอยู่

รูปลักษณ์ภายนอก ตัวรถมากับสีเขียวเข้มแบบด้าน พร้อมทรงคลาสสิคสวยงาม

ไฟหน้าเป็นไฟ LED มีชื่อรุ่น Grand Filano อยู่ด้านในดูพรีเมียมสวยงาม

มาพร้อมกับไฟ DRL และไฟเลี้ยวแบบใหม่แยกโคมออกมาเป็นเส้นลากเเนวตั้งเรียวยาวแบบ LED เช่นเดียวกัน

ที่ชุดบังลมด้านหน้า มีตรานูน GRAND Filano มาให้อยู่เหนือไฟเลี้ยวด้านซ้าย เพิ่มลูกเล่นให้กับตัวรถ

ด้านท้ายดีไซน์ดูคลาสสิคเข้ากับตัวรถ

ไฟท้ายเรียวยาวแบบใหม่สอดรับกับด้านหน้า มาเป็นแบบ Full LED

เช่นกันกับด้านหน้า ใต้ไฟเลี้ยวด้านซ้ายมีตรานูน GRAND Filano สวยงาม

มุมมองผู้ขับขี่

ประกับแฮนด์มีปุ่มมาตรฐานทั่วไป ประกับด้านขวาเพิ่มปุ่ม Stop & Start System ที่สามารถเลือกเปิด/ปิดได้

ในส่วนของหน้าจอเรือนไมล์ปรับปรุงเป็นแบบ Full Digital LCD ดูล้ำสมัยกว่ารุ่นก่อน แยกเป็น 2 จอคือบนและล่าง

หน้าจอด้านล่าง บอกข้อมูลน้ำมันคงเหลือ ระยะทางโดยรวม ระยะทางจับทริป อัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ย อัตราการบริโภคน้ำมันเรียลไทม์ วัดประจุแบตเตอร์รี่ ถือว่าให้มาครบมาก ๆ

จุดเด่นของ Yamaha Grand Filano Hybrid คือสามารถเชื่อมต่อตัวรถกับโทรศัพท์ได้ผ่านแอปพลิเคชัน Y-Connect ทำให้การแจ้งเตือนจากโทรศัพท์จะแสดงบนหน้าจอขณะขับขี่

นอกจากนี้แอปพลิเคชัน Y-Connect ยังบองข้อมูลของรถได้ เช่น ตำเเหน่งเส้นทาง รอบการบำรุงรักษา ทำให้เจ้าของสามารถตรวจสอบข้อมูลของรถได้ด้วยตนเองตลอดเวลา

ถัดลงมาด้านล่าง พบกับช่องเติมน้ำมัน ที่เกี่ยวแขวนของ ช่องชาร์จไฟ ชุดกุญเเจและช่องวางของ

ฝาถังน้ำมันอยู่บริเวณด้านหน้าทำให้เติมน้ำมันสะดวกกว่าคู่แข่ง สามารถเปิดได้จากการกดปุ่มบริเวณชุดกุญแจ และฝากถังน้ำมันยังเป็นแบบบานพับติดกับตัวรถ ไม่ต้องถือให้ลำบากอีกด้วย

ช่องจ่ายไฟมีฝาปิดกันน้ำมาให้แบบ 12V ต้องหาตัวแปลงมาเพิ่ม มีข้อดีคือสามารถเลือกให้เข้ากับอุปกรณ์ของเราได้อย่างอิสระ

ชุดกุญแจรุ่นนี้เป็นแบบธรรมดา หากเป็นรุ่น ABS จะได้กุญแจ Keyless

ด้านล่างมีช่องเก็บของขนาดเล็กไม่มีฝาปิด

พื้นที่เก็บของใต้เบาะ มีความจุ 27 ลิตร สามารถเก็บหมวกกันน็อกแบบเต็มใบได้บางรุ่นเท่านั้น ภายในมีไฟส่องสว่าง LED

เนื่องจากย้ายถังน้ำมันไปด้านหน้า ทำให้พื้นที่ใต้เบาะมีมากขึ้น ถือว่าใส่ของได้เยอะกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด

ระบบเบรก ด้านหน้าเป็นดิสก์เบรก มีให้เลือกทั้งรุ่นธรรมดาและรุ่น ABS

ด้านหลังเป็นดรัมเบรก โดยรวมเบรกได้มั่นใจดี เหมาะสมกับตัวรถ

ช่วงล่าง ด้านหน้าเป็นเทเลสโคปิค

ด้านหลังเป็นโช๊คอัพสปริงเดี่ยววางอยู่ทางด้านซ้าย

ล้อและยางขนาด 110/70 R12

ความรู้สึกช่วงล่างออกไปในทางกระชับออกไปทางกระด้างเล็กน้อย เวลาขับผ่านหลุมหรือพื้นที่ขรุขระจะค่อนข้างกระแทก ไม่นุ่มนวล แต่มีข้อดีคือการขับขี่ด้วยความเร็ว 90 กม./ชม. และการขี่เข้าโค้งทำได้อย่างมั่นใจแม้มีผู้ซ้อนท้ายอยู่ด้วยก็ตาม

ท่านั่งการขับขี่ ด้วยความที่เป็นรถ Scooter ทำให้เบาะมีความกว้าง แม้จะสูงเพียง 790 มม.แต่ผู้ทดสอบที่ส่วนสูง 170 ซม.ก็ไม่สามารถวางเท้าเต็มพื้นได้ ต้องมีเขย่งประมาณนึง

แต่รถที่ใช้ในการทดสอบได้มีการปาดเบาะมาแล้ว ทำให้อาการส้นลอยมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เบาะเดิมจากโรงงานถือว่ามีความนุ่มนั่งสบายทั้งผู้ขี่และผู้ซ้อน นั่งนาน ๆ แล้วไม่เมื่อยล้ามากนัก

ทดสอบขับขี่จริง พบว่าเครื่องยนต์ Blue Core Hybrid ขนาด 125 ซีซีให้การตอบสนองที่ดี โดยเฉพาะในรอบต้นที่มีเทคโนโลยี Hybrid ทำงานตั้งแต่ 0-40 กม./ชม. จึงช่วยให้ออกตัวได้ดีและประหยัดน้ำมันอีกด้วย

ในช่วงความเร็วกลาง – ปลายอาจไม่ใช่จุดเด่น แต่ก็ทำได้เหมาะสมกับพิกัดตัวรถ ความเร็วช่วง 60 – 70 กม./ชม. บิดมาเรื่อย ๆ ไม่หวือหวา

Yamaha Grand Filano Hybrid เคลมอัตราการบริโภคน้ำมันอยู่่ที่ 58 กม./ลิตร จากการทดสอบขับขี่จริงในเมืองที่มีการจอดติดไฟแดงเล็กน้อยและใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. ทำอัตราการบริโภคน้ำมันได้อยู่ที่ 50 กม./ลิตร

ข้อดี