Yamaha มอบรถจักรยานยนต์ จำนวน 200 คัน เพื่อสนับสนุนเป็นสื่อการเรียนให้กับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ (คนกลาง) ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า และมร.มิจิฮิโระ โออิชิ (คนที่ 2 จากซ้าย) ผู้จัดการใหญ่ด้านการเงิน วางแผน และบริหาร พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ทำการมอบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าจำนวน 100 คัน ให้กับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยมี ดร.อกนิษฐ์ คลังแสง (คนที่ 2 จากขวา) รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นผู้รับมอบ โดยให้รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าเพื่อเป็นการสนับสนุนสื่อการเรียนการสอนจำนวนทั้งสิ้น 200 คัน และได้ทำการส่งมอบไปแล้วในปี 2557 จำนวน 100 คัน และในปีนี้อีก 100 คัน ณ สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (YRA) เมื่อเร็วๆ นี้

เที่ยวคนเดียวก็เฟี้ยวได้ BY YAMAHA N-MAX  

สวัสดีครับเพื่อนๆ 9CARTHAI ทุกคน วันนี้ทางเรามีทริปเล็กๆในการท่องเที่ยวซึ่งในวันนี้เราจะพาเพื่อนทุกคนไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยใช้ YAMAHA N-MAX ยานพาหนะที่มี CC ที่ไม่มาก ซึ่งในภาพรวมหลายๆคนอาจจะมองว่าการที่เราจะออกทริปหรือท่องเที่ยว ตามวิถี BIKER เราต้องมีรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ๆ หรือที่ทุกคนรู้จักและเรียกกันติดปากว่า BIGBIKE นั้นแหละครับ แต่วันนี้ทางเราจะพาเพื่อนๆทุกคนมารู้จักกับวิถี BIKER แท้จริงแล้ว ทีมี 150 CC จะไปได้สะดวกแค่ไหน มาติดตามหัวใจหลักของการท่องเที่ยว BY YAMAHA N-MAX จากข้อมูลด้านล่างได้เลยครับ

ฉะเชิงเทรา เป็นอีกหนึ่งในจังหวัดที่ได้ชื่อว่าเป็น “ปริมณฑล” ตั้งอยู่ห่างจากบางกอกไปเพียงไม่กี่สิบกิโลเมตร ฉะเชิงเทรา ที่หลายๆคน คิดถึงตลาดน้ำโบราณ ที่เป็นไปตามบริบทของเมืองที่ล้อมรอบด้วยพื้นที่ลุ่มน้ำบางประกงไม่ว่าคุณจะคิดถึงฉะเชิงเทราในมุมไหน ตามเรามา RIDE NOW คุณอาจพบกับฉะเชิงเทราในบางมุมที่คุณเคยคุ้น และ คุณอาจได้รู้จักฉะเชิงเทรามากขึ้นจากบางมุมที่คุณยังไม่คุ้นเคย แม้จะมีเวลาเพียงหนึ่งวัน แม้จะไม่ได้เน้นว่าจะต้องท่องเที่ยวให้ได้มากสถานที่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปริมาณความสุขที่ได้จะมีน้อย..หรือไม่ เพียงใด เที่ยวไปด้วย บ่นไปด้วย ชิมไปด้วย ตบท้ายด้วยฟิลลิ่งของการขับขี่ตามประสา RIDE NOW

ทริปนี้…เหตุเกิดจากการลากเส้นทางเล่นในgoogle map ไล่ไปไล่มา ก็ไปสะดุดตาแถวๆพนัสนิคม กับอ่างเก็บน้ำชื่อหนึ่ง ซึ่งไปตรงกับชื่อจริงชื่อเก่า อ๊ะ แปลกตาดีนี่ (ปกติชื่อเก่าผมนี่ก็หาคนซ้ำยากนะ) มีอ่างเก็บน้ำชื่อนี้ด้วยเหรอนี่

เอ๊ะ….ขึ้นว่าเป็นอ่างเก็บน้ำ แต่ทำไมในแผนที่ไม่แสดงเป็นสีฟ้าอ่อนแบบแหล่งน้ำ

ไหนดูอีกแบบสิ…ก็ยังไม่เห็นน้ำ ตกลงว่ามันมีน้ำไหมเนี่ย???

ลองไปขุดข้อมูลดู http://kromchol.rid.go.th/lproject/lsp08/2014/ อ่อ…ตอนที่ Google map ทำแผนที่ฉบับปัจจุบัน ยังไม่ได้ up date ข้อมูลที่นี่ ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะถือว่าเป็นอ่างเก็บน้ำน้องใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จสดๆเมื่อไม่นานมานี้เอง อะห๊าาาา เข้าทาง!! ชอบอยู่แล้ว ที่ๆยังไม่ค่อยมีข้อมูลเนี่ย

ลองค้นๆดูรูป ก็เริ่มจะพอมีบ้างแล้วละ แต่ค้นดูรีวิวใน pantip ก็เจอกระทู้นึง แต่ตอนนั้นยังสร้างไม่เสร็จดี เอาล่ะ งั้นไป up date สักหน่อยก็แล้วกันน่า

หาข้อมูลเสร็จ …เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ก็หารถไปลองขี่เพื่อหาข้อมูลรถไปด้วยก็แล้วกัน ก็ตามประสา RIDE NOW นะครับท่านผู้ชม
YAMAHA NMAX ฉันเลือกนาย!!!

วางแผนเรียบร้อยว่าจะไปไหนบ้าง….และวันเดินทาง ก็ธรรมดาของนักเดินทางในฤดูฝน ล้างรถมาดีแค่ไหน สุดท้ายก็เละครับท่านผู้ชม เช้ามาออกจากมีนบุรีมาได้ไม่เท่าไร เอาแค่แถวๆหนองจอกฝนก็เริ่มโปรยละอองเบาๆมาแล้วจ้า แวะเติมถังแรกซะหน่อย

ขี่ออกไปได้อีกนิด ก็แวะอีกหน่อย จริงๆคือตั้งใจจะลองแวะเข้าไปตลาดโบราณนครเนื่องเขต แต่ดันเข้าผิดซอย แต่ยังกำไรที่ได้ทุ่งข้าวเขียวมาตัดกับสีแดงของ N-MAX เข้ากันพอดี

ชิลมาก แวะอีกแล้ว อ้าวววว วันนี้ร้านปิด อดคุ้ยของเล่นเลย

วันนั้นสารภาพเลยว่าเป็นวันที่ขี่รถแบบชิลๆมากวันหนึ่งในชีวิต คืออยากจะลองใช้ความเร็วปกติที่ชาวบ้านทั่วๆไปเขาใช้กันในชีวิตประจำวัน 60-80 km/h เสียส่วนมาก เพราะย่ามใจว่า เอ้ยยยย ใกล้บางกอกแค่นี้เอง (เดี๋ยวก็รู้ อิอิ)

ณ จุดๆนี้ หลายคนเลี้ยวไปคนละทาง เอาเป็นว่าถ้าจะไปพนัสนิคม เราแนะนำให้เลือกทางสายกลาง คือ เข้าไปในเมืองฉะเชิงเทราแล้วไปออกตรงแยกคอมเพล็กซ์จะดีกว่านะ เพราะถนนเลี่ยงเมืองแถวนี้รถบรรทุกเพียบเลย

จากตรงนี้จะเริ่มบอกทางเข้าอ่างเก็บน้ำกันแล้ว เพราะถ้าให้ google map นำ มันหลายเส้นทางเหลือเกิน ดังนั้น…เราจะไปทางที่ Google map ไม่ได้แนะนำกัน…อ้าววว 555 ง่ายๆไม่ทำ ไปทำให้มันยากเสียอย่างนั้น แต่เอาจริงๆแล้วไม่ยากนะ เพราะแทบจะมีป้ายบอกทางตลอด ทั้งๆที่ google map ก็ไม่ได้แนะนำให้มาทางนี้นะ สรุปแล้วก็ยังงงว่า เวลาเดินทางเราควรจะเชื่ออะไรดี เชื่อแผนที่กระดาษ เชื่อ google map หรือ…เชื่อสัญชาติญานของเราเอง….

ง่ายๆเลย วิ่งมาให้ถึงตัวอำเภอพนัสนิคม มองซ้ายไว้ เดี๋ยวก็จะเจอป้ายบอกแบบนี้

ขี่มาต่อจนถึงสามแยกนี้ สังเกตซ้ายมือจะมีเซเว่น

เลี้ยวซ้ายฟ๊าบบบ เข้าไป ตรงไปอีกนิดก็จะเจอสามแยกนี้ ให้เลี้ยวขวานะ

ตรงมาอีกสักประมาณสี่กิโลเมตรก็จะเจอแยกอีก คราวนี้เลี้ยวซ้ายแล้วตรงยาวๆไปชน 331 แล้วก็ตรงข้ามถนน331ไปอีก เดี๋ยวก็เจอ อิอิ

มาถึงก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง เพราะดูจากการเกาะตัวของกลุ่มเมฆแล้ว พร้อมจะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ ขึ้นไปริมอ่างเก็บน้ำรัชโลทรกันเลยดีกว่า มาวันธรรมดา เงียบกริบ สงบดีจริง

มองลงไปด้านล่าง จะมีคล้ายหาดสำหรับเล่นน้ำได้อยู่ ลองลงไปส่องกัน

จะมีเพิงชั่วคราวสำหรับให้บริการนั่งหลบแดด

อัตราค่าบริการต่างๆ

หามุมเงียบสงบแบบนี้ หามุมถ่ายรูปเล่นก็ดีนะ ไม่ต้องเขินสายตาใครดี แต่เสียดายที่ฟ้าวันนั้นไม่ค่อยเป็นใจ สีตุ่นๆทั้งวันเลย

น้ำใสใช้ได้ วันหยุดคงมีนักท่องเที่ยวมาเล่นกันสนุกเลย

ถ่ายเล่นจนเลยเที่ยง ไปอุดหนุนชาวบ้านที่มาขายของสักหน่อย รสชาดโอเคอยู่นะ ที่สำคัญคือได้อุดหนุนคนพื้นที่นี่แหละ

มีโต๊ะให้นั่งกินได้ตามอัธยาศัย

นั่งกินได้แปบเดียว ยานแม่ถล่มจ้า เลยจำยอมต้องไปเผ่นไปนั่งในร้านกาแฟ จึงจำเป็นต้องอุดหนุนสักแก้ว

ฝนหยุดแล้ว เล็งตรงสันเขื่อนเอาไว้ ไปถ่ายรูปเล่นกันดีกว่า ป่ะ

สปิลเวย์ที่นี่ดูอลังการใช้ได้เลย

ถนนสันเขื่อนราดยางมะตอยอย่างดี เป๊ะมากๆ ความยาวของถนนสันเขื่อนดูแล้วมีไม่ต่ำกว่า 3 กิโลเมตร

ออกจากอ่างเก็บน้ำรัชโลทร ท้องก็เริ่มหิว แน่นอนว่าตอนขี่มาก็มีร้านที่ล๊อคเป้าเอาไว้แล้ว มาดูกันสิว่าเรดาห์จะแสกนพลาดไหม

ดูจากลีลาการปรุงแล้ว เข้าขั้นจอมยุทธ์

อื้อหืมมมมมม ไม่ผิดหวัง และเกินความคาดหวัง สำหรับบะหมี่แห้งเป็ดย่าง ให้ 10/10 บวกคะแนนพิเศษให้อีกหนึ่งคะแนนสำหรับความหอมของเครื่องปรุง

ร้านหาไม่ยาก วิ่งกลับทางเดิมขามาลงจากเขื่อนมาเรื่อยๆประมาณสัก 5 กิโลเมตร มองซ้ายมือเอาไว้ให้ดีนะจ๊ะ มาตรฐาน [RIDE EAT] ชวนชิมเลยจ้า

ถ้าไม่บอกคงไม่มีใครรู้ ผมเป็นลูกหลวงพ่อโสธรนะครับ แวะไหว้พ่อสักหน่อย

เข้าไปก็ประมาณห้าโมงเย็น เจ้าหน้าที่กำลังจะปิดวิหารพอดี ดีนะยังมาทัน (ในรูปจะเห็นว่ากำลังเก็บตู้รับบริจาค)
ใครอ่านกระทู้นี้ ใครกดโหวตคะแนน ใครกดแชร์ ขอให้รวยๆๆ เฮงๆๆ ไม่เจ็บไม่จน สาธุ๊!!!

ออกจากวิหารหลวงพ่อโสธรมา ฟ้ายังไม่มืด เวลายังพอเหลือ ไหว้พระพุทธกันแล้ว ก็ต้องไปไหว้เทพเสียหน่อย ส่วนตัวโดยชื่อเล่นของเจ้าของกระทู้ใครพอรู้เรื่องศาสนาพรามณ์อาจสะกิดนิดๆว่ามีความเกี่ยวพันกับความเชื่อของศาสนาพรามณ์ มาถึงฉะเชิงเทราก็มีวัดสมานที่ขึ้นชื่อว่ามีพระพิฆเนศวรขนาดใหญ่ ศิษย์มีครูแบบเราจะให้พลาดได้อย่างไร

โอม ศรีคเณศายะ นะมะฮา โอม ศรีคเณศายะ นะมะฮา โอม ศรีคเณศายะ นะมะฮา

วัดสมานอยู่ติดกับแม่น้ำบางประกง เหมาะแก่การนั่งชิลๆกินลมช่วงเย็นๆเลยนะ ดูทรงแล้ว ลอยกระทงที่นี่คงอลังการไม่เบา

ที่วัดสมานมีร้านกาแฟป่าดงดิบที่เป็นสาขาแรกที่วัดดำเนินการเองด้วยนะ รายได้ของร้านนี้เข้าวัดจ้า

ขี่ออกมาจากวัดได้สักหน่อย…ยานแม่ถล่มอีกรอบจ้า รอบนี้อย่างหนักเลย

เอากล้องกับขาตั้งใส่ไว้ช่องเก็บของใต้เบาะได้เลย ไม่ต้องห่วงว่าจะเปียก สะดวกดีก็ตรงนี้แหละ จากนั้นก็ขี่ลุยฝนไปเรื่อย กว่าจะถึงกรุงเทพก็เปียกปอนยับเยินกันตามท้องเรื่อง

ทริปนี้ขี่ไป-กลับ บางกอก>แปดริ้ว>บางกอก ใช้น้ำมันไปถังหนึงโดยประมาณ ด้วยปริมาณตามที่เห็น

และนี่ก็คือระยะทางที่ทำได้ หลังจากที่ไฟเตือนน้ำมันขีดสุดท้ายกระพริบ (ที่ความเร็วเฉลี่ยไม่เกิน 70 km/h)

มาว่ากันที่เรื่องตัวรถ YAMAHA N-MAX ที่ยืมมาทดสอบในรอบนี้กันสักเรื่อง หนึ่งในความดีงามที่ให้ติดรถมาด้วยก็คือ ดิสก์เบรกหน้าและหลัง ที่มาพร้อมกับระบบ ABS ได้มาเหลาในรอบนี้เพราะดันได้ใช้งานเจ้าระบบABSในรอบนี้เสียด้วย ขากลับจากแปดริ้วมาบางกอก ฝนก็ตกตลอดทางอย่างที่เห็น ไฟหน้าติดรถก็ทำงานในช่วงฝนตกได้ดีประมาณหนึ่ง ท่ามกลางความมืดและเม็ดฝนโปรยปราย สายตาก็ได้ไปจับกับวัตถุสิ่งหนึ่งบนถนน ซึ่งก็คือไม้พาเลทท่อนโต ขวางทางอยู่ในระยะที่สมองประเมินแล้วว่าไม่ควรหลบ ถ้าหลบอาจกลิ้งอย่างรุนแรง แต่ต้องลดความเร็วของรถลงให้ได้มากที่สุดก่อนที่ล้อหน้าจะปะทะ…

ร่างกายทุกส่วนทำงานโดยอัตโนมัติตามที่ฝึกฝนมาจากหลากหลายสำนัก (โม้ปะ) กดเบรกหน้าหลังให้ทำงานอย่างเต็มที่เท่าที่สภาพแวดล้อมจะอำนวย กดจนมีเสียงดังกึ่ดๆๆๆเป็นจังหวะเบาๆที่ล้ออย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ของมันก็คือสามารถลดความเร็วลงได้และไม่เสียการทรงตัว ความเร็วที่ลดลงก่อนที่ล้อหน้าจะปะทะสิ่งกีดขวางเพียงพอที่จะปะทะแล้วแม้รถจะเสียการทรงตัวไปบ้าง (ลอยจากพื้นประมาณหนึ่ง) แต่ก็ยังประคองไว้ไม่ให้ล้มลงไปจับกบกลางถนนได้ รอดมาได้นี่แอบกรี๊ดเบาๆในหมวกเลยล่ะพ่อคุณเอ้ยยยย

สำหรับทริปวันเดียวก็เหลากันประมาณนี้ก่อน จะเหลาที่เหลือแบบยาวๆกันในทริปถัดไปที่ได้พาเจ้า N-MAX ไปร่อนค้างคืนไม่ใกล้ไม่ไกลจากบางกอก สำหรับรอบนี้ ขอบพระคุณที่ติดตามรับชมจนจบกระทู้

ขอขอบคุณข้อมูล และรูปภาพ คุณ สมัญตาชีวบุตรomega13 จาก WWW.PANTIP.COM

รีวิว “ข้อดี-ข้อเสีย”  YAMAHA YZF-R3 น่าใช้หรือไม่?

สวัสดีครับเพื่อนๆ 9CARTHAI ทุกคน วันนี้ทางเรามีข้อมูลและรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของเจ้า YAMAHA YZF-R3 หรือสำหรับคนที่กำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์ซึ่งเจ้า YAMAHA YZF-R3 จะตอบโจทย์โดนใจให้ใครหลายคนหรือไม่นั้น เพื่อนมาติดตามจากข้อมูลด้านล่างได้เลยครับ

สวัสดีครับ…. ไม่ได้ตั้งกระทู้ใน Pantip นานมาก ๆ แล้ว วันนี้เป็นวันหยุดหลังจากการสอบกลางภาคของมหาวิทยาลัยของผม จึงมีเวลามานั่งเขียน รีวิวข้อดีข้อเสียของรถรุ่นนี้สักหน่อย จากการที่ผมได้รถคันนี้มาตั้งแต่ วันที่ 18/9/58 จนวันนี้ก็ 1 ปีนิด ๆ ก็ได้ผ่านอะไรมากเยอะเหมือนกันกับการทำโน่นทำนี้ไปเรื่อย เจอปัญหาก็ค่อย ๆ แก้ไขกันไปที่ละจุด เลยอยากเอาแชร์กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ใน Pantip เผื่อจะเป็นแนวทางหรืออาจจะมีคนกำลังสนใจซื้อรถรุ่นนี้จะได้ตัดสินใจว่าตรงกับความต้องการไหม

(รูปรับรถมาวันแรก)
เรื่องแรกที่ผมจะเล่าหน้าจะเป็นเรื่องของการกินน้ำมันแล้วกันเนอะ
เรื่องผมนี้อาจจะต้องบอกก่อนนะครับ เพราะว่าผมนั้นมีน้ำหนักตัวที่มากกว่าปกติของคนทั่วไปอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ผมมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 160 กิโลกรัม !!! อย่าเพิ่งตกใจกันไป 555 ยังครับ ยังไม่พอ ผมมีคุณแฟนที่น่ารักของผมอีกคนที่ผมค่อยขับไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัย คุณแฟนน้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม รวม ๆ กันแล้วหน้าจะประมาณ 220 กิโลกรัม เวลาที่ผมขับ ผมจะใช้ความเร็ว ตั้งแต่ 60 – 150 ในบ้างจังหวะที่ต้องใช้ความเร็ว(วันที่ตื่นสายแล้วคุณแฟนมารอ-*-) โดยเฉลี่ยแล้ว ผมจะเติมน้ำมัน E20 เต็มถัง ถังนึงวิ่งได้ประมาณ 280-300 กิโลเมร/ถัง ถ้าดูจากหน้าปัดที่บอกค่าเฉลี่ยไว้ จะขึ้นประมาณ 20-25 กิโลเมตรต่อ 1 ลิตร ก็ถือว่าพอรับได้ครับ สำหรับเครื่องยนต์ 321 cc

เรื่องที่สอง หน้าจะเป็นเรื่องการขับขี่
เรื่องนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญเหมือนกันครับ พอผมได้รับรถมาวันแรก ผมก็ได้ทำการหัดขับอยู่สองสามวัน จนขับชินแล้ว ก็เอาไปมหาวิทยาลัยเลย ไม่ได้บ้าของใหม่อะไรหรอกครับ คือขายคันเก่าไปแล้ว แล้วมาออกคันใหม่ ต่อให้มันไม่ชินก็ต้องขับไปอยู่ดีเพราะไม่มีรถให้ขับแล้วในบ้าน 555 เป็นครั้งแรกที่ได้ขับยาว ๆ จากถนนสวนผัก (แถวๆกรมการขนส่ง) ไปถึง มจพ. ทำให้รู้ว่า รถมันนิ่งดีนะ ทำความเร็วได้ดีกว่าคันเก่ามาก ^^ ชอบเลย แต่ปัญหาก็มีครับ คือมือผมนี้ชามาก ๆ ตอนแรกผมก็คิดนะว่า เพราะเราต้องก้มขับ ไม่เหมือน Nouvo SX คันเก่าที่ขับชิว ๆ และอาจจะเป็นการจับแฮนด์ผิดวิธีด้วย ก็ไปเรียนขับขี่ปลอดภัย เค้าก็สอนผมนะว่าจับแบบนี้นะ เราก็จับ แต่ก็ยังไม่หายชา จึงได้ไปปรึกษาพี่ช่างที่เป็นช่างประจำศูนย์ที่ออกรถมา ช่างบอกว่า ลองวิธีนี้ดูไหม คือการโหลดหน้าลง 1 นิ้ว หน้าจะดีขึ้น ผมก็เอาสิ ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว หลังจากการทำโหลดหน้าลงมา 1 นิ้ว ผลที่ได้ออกมาคือ มันนิ่งสนิทเลยครับ จากที่มือชา ๆ กันหายไปหมดเลย แล้วตัวรถก็นิ่งขึ้นมาก ๆ ในความเร็วสูง ๆ ก็แปลกใจเหมือนกันครับว่าแค่โหลดหน้าลงมาเนี่ยนะ ทำให้หายหมดเลย

แต่ครับแต่ การโหลดหน้าลงมามันเหมาะสำหรับคนตัวเบา ๆ ไอ้ตัวผมนี้ก็หนัก ยิ่งมีคุณแฟนที่น่ารักของผมอีกคน เลยทำให้ระยะการยุบตัวของโช็คหน้านั้น ลงไปถึงระยะที่ชนกับด้านบนของตัวโช็ค เวลาตกหลุมหรืออะไร จะมีเสียงเหมือนเหล็กตีกันอย่างนั้น เลยต้องทำการแก้ไขครับ ก็ปรึกษาพี่ช่างศูนย์ท่านเดิม พี่ช่างบอกว่า สงสัยต้องเพิ่มน้ำมัน กับค่าความหนืด เอาสิเหมือนเดิมครับ ไม่มีอะไรจะเสีย จะให้ยกหน้าขึ้นเหมือนเดิมแต่มือชาก็ไม่ไหวนะ ไม่มีความสุขกับการขับเลย ผมเลยตัดสินใจครับ ไปซื้อ น้ำมันโช็ค เบอร์ SAE20 เลยที่เค้าบอกว่าหนืดสุด ให้พี่ช่างเปลี่ยนให้ พี่ช่างบอกว่า ปริมาณการเติมเดิม ๆ จากคู่มือ คือ 487cc ต่อ 1 ข้าง พี่ช่างเพิ่มให้เป็น 495 cc ต่อ 1 ข้าง จากการที่ได้เพิ่มค่าความหนืด และ ปริมาณ ทำให้ปัญหาการยุบตัวนั้นหมดไปครับ สบายละทีนี้ เหมือนรถไม่ได้โหลดหน้า ลงหลุมลงบ่อสบายใจเลยงานนี้ ^^


หมดจากโช็คหน้ากันไปแล้ว มาต่อที่โช็คหลังกันบ้าง ต้องบอกเลยครับว่า ของเดิม ๆ ที่ให้ติดรถมานั้นก็นิ่มสะเหลือเกิน 555(เพราะผมคนเดียวหรือป่าว) ขนาดว่าปรับไปถึงระดับที่ 7 ซึ่งเป็นระดับที่แข็งสุดของโช็คติดรถตัวนี้แล้วก็ตาม จะไม่ให้มันนิ่งได้ไง สองคนรวมกัน 220 กิโลกรัม -*- แต่ผมก็ใช้มาเรื่อย ๆ นะครับ จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้เปลี่ยน แต่ตอนขับขี่ก็ปกตินะครับยังไม่ถือว่ารับไม่ได้เลย ยังทรงตัวในทางตรง ทางโค้งก็ยังถือว่ารับได้ครับ ไม่ได้แย่จนขี่ไม่ได้ขนาดนั้น แต่ถ้าใครมีงบ ก็จัดเลยครับ เปลี่ยนเถอะดีกว่าเดิมเยอะ จากที่ได้ขับรถของเพื่อนที่เปลี่ยนแล้ว อยากเปลี่ยนบ้างเลย T^T

ต่อไปเรื่องยางที่ติดรถมาให้ ยางมีขนาดที่ 110/70-17 ในด้านหน้า และ 140/70-17 ในด้านหลัง ยางที่ทางYamahaเลือกมาให้นั้นเป็นยี่ห้อ Michelin รุ่น Pilot Street ถ้าให้พูดเรื่องยาง ผมอาจจะบอกได้ว่า ก็ถือว่าโอเคนะ ไม่ได้แย่ขนาดขี่บนน้ำแล้วเป็นงู หรือ เข้าโค้งไม่ได้ แต่ก็ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น ฝนตกก็ขับช้าหน่อย ทางโค้งถ้าไม่ชำนาญโค้งนั้นจริง ๆ ก็อย่าเข้าแรง เบา ๆ กันนิดนึง ผมใช้ยางคู่นี้มาตั้งแต่ออกรถ จนวันนี้ก็ยังไม่ได้เปลี่ยน ดูที่ดอกยางแล้วก็ยังเหลืออีกเยอะ แต่สำหรับคนที่มีงบ แนะนำเปลี่ยนเลยก็ดีนะครับ ถ้าเปลี่ยนเป็นตัวดี ๆ แล้ว เหมือนได้รถอีกคันเลยจากที่ลองขับรถเพื่อนที่เปลี่ยนมาแล้ว

เรื่องกำลังของเครื่องยนต์
ต่อไปเรื่องนี้ บอกก่อนครับอย่าเอาผมเป็นตัววัดมากนัก เพราะผมหนักกว่าคนอื่น ๆ เยอะ 555 ผมบอกอย่างนี้ก่อน เดิม ๆ เลย ตอนที่ไม่ได้ยุ่งอะไรกับรถเลย ท็อปสปีดผมได้ที่ 160…..555555 คนอื่นเค้าออกกันมาวิ่งได้ 180 190 ผม 160 -*- ดีจริง ๆ ก็ทำไงอ่าน้ำหนักเยอะนี้หน่า T^T
เนื่ยแหล่ะครับผมเลยต้องมีการตุกติกกันนิด ๆ หน่อย ๆ รถผมทำอะไรไปบ้าง มาสรุปกันก่อนเดียวผมแยกแต่ละตัวให้ว่าใส่เข้าไปหรือเพิ่มเข้าไปแล้วแตกต่างอย่างไงกันบ้าง
1.น้ำมันเครื่อง
2.กรองอากาศแต่ง
3.หัวเทียนแต่ง
4.จูนกล่องเพิ่มน้ำมัน
5.ใส่สารเคลือบเครื่องยนต์ Omega 909

มาเริ่มที่อันแรก น้ำมันเครื่อง ผมใช้ของศูนย์แล้วรู้สึกไม่ประทับใจเท่าไหร่ จึงได้เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ครับ จนมาหยุดที่ สองตัวนี่ ตัวแรกใส่ตอนมีตังครับ 55+

ตัวนี้ราคาอยู่ที่ป๋องละ 280 บาท
ส่วนอีกตัวใส่ตอนตังหมด 555+

ตัวนี้ราคาอยู่ที่ป๋อง 1 ลิตร 120 บาท ป๋อง 0.8ลิตร อยู่ที่ 110 บาท

จากการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ทำให้รู้สึกว่าเครื่องยนต์ไหลลื่นขึ้นครับดีกว่าของศูนย์อ่าในด้านอัตราเร่ง แต่ของศูนย์ตัวใหม่ผมยังไม่ได้ลองนะ กะว่าเดียวเช็ค 20000 กิโล จะเข้าไปลองใช้ของศูนย์ดูครับว่า โอเคไหม เห็นราคาป่องละ 350 มีรูป Rossi ด้วย อิอิ อันนี้ชอบส่วนตัว

อันที่ 2 คือกรองอากาศแต่ง อันนี้ผมได้จากรุ่นพี่ที่รู้จักกันทำให้ครับ เป็นกรองแต่ง DIY ที่บอกได้คำเดียวว่า ใส่แล้วเห็นผลชัดเจนเลย ต้นนี้ดึงเลย กลาง ปลาย ไหลกว่าเดิมครับ ถือว่าพอใจมาก ๆ ถ้าใครอยากชมหน้าตากรองลองเข้าไปที่ Link นี้ครับผมทำไว้เอง ตอนล้างกรอง
https://www.youtube.com/watch?v=2_1K3zvzxGM

อันที่ 3 คือหัวเทียนแต่ง อันนี้บอกนิดนึงครับ เปลี่ยนแล้วมามันไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นแบบเห็นได้ชัดเจน แต่มันเหมือนทำให้เครื่องยนต์นิ่งขึ้น แล้วติดเครื่องติดง่ายขึ้น แต่ก็มีผลด้านอัตราเร่งอยู่บ้างครับแต่ก็น้อยครับ ไม่เหมือนเปลี่ยนกรองอากาศอันนั้นชัดเจน

อันที่ 4 จูนกล่องเพิ่มน้ำมัน อันนี้ก็ถือว่าเด็ดอยู่ครับ ทำให้ต้น กลาง ปลาย นั้น ดึงขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ต้องแลกกันการกินน้ำมันที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากครับ ประมาณ 10-20% แต่แลกมากับความแรงและอัตราเร่งก็ยอมครับ ได้อยู่ ๆ เลยอันนี้

อันที่ 5 ใส่สารเคลือบเครื่องยนต์ Omega 909 อันนี้สิ คือสิ่งที่แปลกใจที่สุด ผมบอกก่อน ผมเป็นคนหัวแข็งมาก ในด้านที่ใครต่อใครบอกว่า ใส่หัวเชื้อสิ ใส่นั้นใส่นี้สิ ผมไม่เชื่ออ่า เพราะผมดูจากหลาย ๆ คนใส่แล้วมันต้องมีผลกระทบด้านใด ด้านหนึ่งแน่ ๆ แต่พอผมได้เห็นจากคนใกล้ตัวหลาย ๆ ต่อหลายท่านใส่ แล้วบอกดีขึ้นมาก แล้วไม่มีผลกระทบ ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อหรอก สุดท้ายก็ลอง พอใส่เท่านั้นแหล่ะ คุณพระ!!!! มันเห็นผลจริง!!! จากที่เกียร์เข้ายาก ๆ เครื่องเร่งไม่ขึ้น กินน้ำมัน(กินจากการจูนเพิ่มน้ำมัน) มันได้ผลที่ออกมาเปลี่ยนไปเลย คือ เกียร์เข้าง่ายมาก ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ผมงงไปเลยจริง ๆ เครื่องเร่งดีขึ้น เสียงเงียบลง เครื่องยนต์ร้อนช้าขึ้น กินน้ำมันน้อยลง(กินน้ำมันเหมือนตอนที่ไม่ได้จูนเพิ่มน้ำมันเลย)

จากการที่ผมได้ทำทั้งหมดนั้น จากที่ผมวิ่งได้สูงสุด 160 นึกภาพง่าย ๆ ว่า จากวงเวียนพระราม 5 จนถึงตีนสะพานพระราม 5 กว่าผมจะได้ 160 ตอนนี้ จากวงเวียนพระราม 5 มาถึงโลตัสพระราม 5 ผมได้ 160 แล้ว พอไปถึงตีนสะพาน ผมได้ที่ 175 เครื่องยนต์ยังไหลได้ต่อ แต่สุดถนนแล้วพอดีกว่า ก็ถือว่าพอใจมากครับ

เรื่องการดูแลรักษา
เรื่องนี้ผมคิดว่า แล้วแต่บุคคลเนอะ ค่าใช่จ่ายก็ขึ้นอยู่ แต่ละท่านว่า ดูแลมากหรือน้อย ถ้าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาในคู่มือ ก็จะไม่แพงมาก แต่ถ้าใครเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนนั้นเปลี่ยนนี้บ่อยกว่าในคู่มือบอกก็อาจจะใช้เงินมากขึ้นมาหน่อย ส่วนตัวผมก็มีชุดล้างรถ ดูแลรถตามนี้ ๆ

ผมจะใส่ตัวล้างหัวฉีดทุก ๆ 3000 กิโลเมตร วิธีใส่ก็คือเติมน้ำมันให้เต็มถังเลยครับแล้วใส่ตัวล้างเข้าไปตามนี้เลย


ล้างโซ่ผมล้างทุก ๆ 500-1000กิโลครับ ใช้ ฝาเขียว แล้วน้ำมันเฟืองท้าย เบอร์ 140 หรือไม่ก็ จารบีขาว ไม่ก็ Yamalube ครับ วันไหนสะดวกไหนผมก็ฉีด ๆ ทา ๆ ไป 55+

(สภาพโซ่ที่ใช้งานมาแล้ว 18,000 กว่ากิโลเมตร)
ต่อไปเบรก เบรกผมก็จะใช้ ตัวล้างทำความสะอาดโดยตรงของระบบเบรกครับ ฉีด ๆที่จาน กับตัวผ้าเบรกครับ แต่ผ้าเบรกหลังผมหมดตอนประมาณ 15,000 กิโลเมตรครับ ส่วนหน้ายังอีกนิดหน่อย ผมเลยเปลี่ยนผ้าเบรกหลังเป็นของ RCB ครับ ราคา 150 บาท แต่ได้ยินว่าตอนนี้ปรับราคาขึ้นแล้วแต่ไม่รู้เท่าไหร่ แหม่เสียด้ายตอนนั้นหน้าจะซื้อเก็บไว้อย่างถูก ^^ เบรกดีด้วยนะเหมือนของศูนย์เลย

(สภาพผ้าเบรกเก่าที่ใช้งานมาประมาณ 15,000 กิโลเมตร)
ต่อมา!!! ผมบอกเลย มันคือเรื่องที่ใหญ่ที่สุดของ คนที่ใช้ YZF-R3 5555+ ลูกปืนครัช -*- ผมบอกก่อนนะ ผมยังไม่เคยแตก แต่ผมเปลี่ยนไว้ก่อนแล้ว ^^ มาเล่ากันหน่อยดีกว่า ตอนออกรถอ่า วันที่ไปซื้อรถเลยอ่า มันมีรถที่ลูกปืนแตกที่ยกขึ้นรถยกมาลงที่ศูนย์ที่ผมจะออกพอดีเลย ให้ตายสิ ใจนี้ลุ้นเลยว่า ตรูจะโดนไหม พอวิ่งมาได้สักระยะ ประมาณ 4,000 กว่า ๆ ผมเลยรื้อออกมาเปลี่ยนเองก่อนเลย ไปซื้อลูกปืนที่คลองถม ตัวละ 180 เป็นของ SKF รอบจัด มาเปลี่ยนใส่ ก็วิ่งมายาว ๆ เลย ไม่แตกไม่อะไร ก็รอดแล้ว แต่พอได้ข่าวว่าศูนย์ใหญ่ทำเรื่องให้เครมได้แล้ว ก็เลย จัดการเปลี่ยนอีกรอบให้แน่นอน หลังจากการเปลี่ยนรอบที่สอง ที่เป็นของศูนย์ใหญ่ แล้วสรุปได้ว่า ดีขึ้นครับ หมดห่วงว่าง่าย ๆ 5555 ^^

(พี่ช่างกำลังแกะกล่องที่ส่งมาจากศูนย์ใหญ่)

(หน้าตาของมัน ใหญ่กว่าเดิมอยู่พอสมควร)

(เปลี่ยนสิครับรอไร!!! 555)

(ลาก่อนลูกปืนเก่า)
หน้าจะหมดแล้วละครับ แต่ถ้าใครสงสัยอย่างไง ถามผมในนี้ หรือ หลังไมค์ ก็ได้นะครับ ^^ ถ้าผมรู้เดียวตอบให้เลย
ขอบคุณมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ครับที่อ่านมาจนจบ หวังว่าหน้าจะมีประโยชน์ต่อท่านสมาชิกสักนิดก็ยังดี ^^
ก่อนไปลงรูปรถสะหน่อยดีกว่า ^^

ขอขอบคุณข้อมูล และรูปภาพ คุณ นิสิตน้อย จาก WWW.PANTIP.COM

ใหม่!! ยามาฮ่า ฟีโน่125 Fits All Feelings ความลงตัวใหม่…ใช่ทุกแนว

ยามาฮ่า ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถจักรยานยนต์ออโตเมติกแฟชั่นครั้งใหม่!!! พร้อมตอบสนองคนรุ่นใหม่วัยมันส์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วย “ใหม่!! ยามาฮ่า ฟีโน่125” ที่ได้รับการออกแบบดีไซน์สีสันแนวใหม่ ใช่สุด!!! อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่โดนใจใช่ทุกแนว ด้วยเครื่องยนต์ Blue Core ที่สามารถเติมน้ำมันได้หลายประเภทจนถึง E85 มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะใหม่ Stop & Start System พร้อมสโลแกนใหม่ “Fits All Feelings…ความลงตัวใหม่…ใช่ทุกแนว” ซึ่งมีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่น 3 สไตล์ คือ รุ่น PREMIUM FASHION, รุ่น ACTIVE FASHION และ รุ่น DELUXE

“ใหม่!! ยามาฮ่า ฟีโน่125” สีสันแนวใหม่ของออโตเมติกแฟชั่น 125 ซีซี. ความลงตัวใหม่แห่งดีไซน์ และเทคโนโลยีที่ใช่สำหรับทุกแนว มาพร้อมเครื่องยนต์ Blue Core เทคโนโลยีแห่งความแรง และความประหยัด ด้วยแรงบิดสูงในรอบต่ำ เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ พร้อมจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอัจฉริยะ และกระบอกสูบไดอะซิลที่แข็งแกร่ง ทนทาน ระบาย ความร้อนได้ดียิ่งขึ้น ลดการสูญเสียกำลัง ได้ทั้งความแรงเต็มซีซี. แต่ประหยัดน้ำมันสูงสุด และ ช่วยลดมลพิษเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

“ใหม่!! ยามาฮ่า ฟีโน่125” ในรุ่น PREMIUM FASHION และรุ่น ACTIVE FASHION มาพร้อมกับกล่อง ECU สมองกลอัจฉริยะแบบ Flex Fuel Vehicle (FFV) ที่คำนวณค่าการจ่ายน้ำมันให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้สามารถเติมน้ำมันเชื้อเพลิงได้ทั้งเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ทุกประเภทจนถึง E85

“ใหม่!! ยามาฮ่า ฟีโน่125” รุ่น DELUXE นั้น มาพร้อมกับความพิเศษสุดกับเทคโนโลยีอัจฉริยะใหม่!! Stop & Start System ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน โดยในขณะขับขี่ และต้องหยุดรถนานเกินกว่า 5 วินาทีขึ้นไป ไม่ว่าจะหยุดจอดรอสัญญาณไฟจราจร หรือหยุดจอดชั่วคราว ระบบ Stop & Start System จะสั่งการให้เครื่องยนต์หยุดทำงานโดยอัตโนมัติ พร้อมสัญญาณไฟกระพริบแจ้งการทำงานของระบบที่อยู่บนมิเตอร์ และเพียงแค่บิดคันเร่งเครื่องยนต์ จะทำงานต่อทันที ส่งผลให้ลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน และประหยัดมากขึ้น

“ใหม่!! ยามาฮ่า ฟีโน่125” ยังคงมาพร้อมกับฟังก์ชั่น และฟีเจอร์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างมีสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า FULL LED สไตล์โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟหรี่ Diamond Cut Lens เท่จัด สว่างเห็นชัดแต่ไกล, เรือนไมล์แยกส่วน Duo Meter พร้อมไฟแสดงการขับขี่แบบประหยัด ECO LAMP, MEGA BOX ใหญ่ขึ้น ขนาดจุใจถึง 8.2 ลิตร เก็บสิ่งของต่างๆ ของคนวัยมันส์ได้มากยิ่งขึ้น, ล้อแม็ก ขนาด 14” เทรนด์สปอร์ตสุดแกร่ง และกุญแจรีโมท ANSWER BACK SYSTEM ที่สามารถเปิดช่องกุญแจอัตโนมัติพร้อมไฟเรืองแสง และส่งสัญญาณบอกตำแหน่งรถ

“ใหม่!! ยามาฮ่า ฟีโน่125” มีให้เลือกเป็นเจ้าของด้วยกัน 3 รุ่น คือ รุ่น DELUXE ที่มาพร้อมกับ สีเทา เท่อย่างมีสไตล์!!, รุ่น ACTIVE FASHION โทนสีสไตล์สปอร์ตมีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และสีแดง และในรุ่น PREMIUM FASHION สำหรับผู้ที่ชอบความพรีเมี่ยมมีระดับมีให้เลือก 2 สี คือ สีน้ำเงิน และ สีขาว…สำหรับ “ใหม่!! ยามาฮ่า ฟีโน่ 125” มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นในรุ่น ACTIVE FASHION ราคา 46,000 บาท, ในรุ่น PREMIUM FASHION ราคา 48,500 บาท และในรุ่น DELUXE ราคา 51,500 บาท โดยสามารถเลือกเป็นเจ้าของได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ

ใหม่ YAMAHA FINO 125 2016-2017 ราคา ยามาฮ่า ฟีโน่ ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

ALL NEW YAMAHA FINO 125 ความลงตัวใหม่..ใช่ทุกแนว
Yamaha Fino 125 รุ่น Active Fashion ราคา 46,000 บาท
Yamaha Fino 125 รุ่น Premium Fashion ราคา 48,500 บาท
Yamaha Fino 125 รุ่น Deluxe ราคา 51,500 บาท

NEW YAMAHA FINO 125 ราคาผ่อน, ตารางผ่อน

สีสันแนวใหม่ของออโตเมติกแฟชั่น 125 ซีซี ความลงตัวใหม่แห่งดีไซน์และเทคโนโลยีที่ใช่สำหรับทุกแนว
-แนวแรง… ด้วยพลังเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด 125 ซีซี
-แนวล้ำ…ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะใหม่ Stop & Start System
-แนวประหยัด… ด้วยเครื่องยนต์ BLUE CORE และเติมน้ำมันได้หลายประเภท

ประหยัดอีกขั้น กับ ฟีโน่ รุ่น DELUXE กับ เทคโนโลยีอัจฉริยะใหม่ Stop & Start System *
* เฉพาะในยามาฮ่า ฟีโน่125 รุ่น Deluxe เท่านั้นช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันขณะขับขี่และต้องหยุดรถนานเกิน 5 วินาที ขึ้นไป ไม่ว่าเป็นการหยุดจอดรอ สัญญาณไฟจราจร หรือ หยุดจอดชั่วคราว ระบบ Stop & StartSystem จะทำการสั่งให้เครื่องยนต์หยุดทำงาน โดยอัตโนมัติและมีสัญญาณไฟกระพริบแจ้งการทำงานของระบบที่อยู่บนมอนิเตอร์ เพียงบิดคันเร่งเครื่องยนต์จะทำงานต่อทันที ส่งผลให้ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันและประหยัดมากขึ้นอีกด้วย

เครื่องยนต์ Bluecore 125 CC เทคโนโลยีแห่งความแรงและความประหยัด
ด้วยแรงบิดสูงในรอบต่ำ เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ พร้อมระบบหัวฉีดอัจฉริยะและกระบอกสูบไดอะซิล ระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น ลดการสูญเสียกำลังได้ทั้งความแรงเต็มซีซีแต่ประหยัดน้ำมันสูงสุด และช่วยมลพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รุ่น Active Fashion

รุ่น Premium Fashion

ประหยัดสุดกับ ยามาฮ่า ฟีโน่125
รุ่น PREMIUM FASHION และรุ่น ACTIVE FASHION

มีสมองกลอัจฉริยะ ECU แบบ Flex Fuel Vechicle (FFV) ที่คำนวณค่าการจ่ายน้ำมัน

สามารถเติมได้ทั้งเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ทุกประเภทจนถึง E85
(เฉพาะยามาฮ่า ฟีโน่125 รุ่น PREMIUM FASHION และ ACTIVE FASHION เท่านั้น)

ไฟหน้า FULL LED สไตล์โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟหรี่ Diamond Cut Lens เท่จัด สว่างเห็นชัดแต่ไกล

เรือนไมล์แยกส่วน Duo Meter พร้อมไฟแสดงการขับขี่แบบประหยัด ECO LAMP

MEGA BOX ใหญ่ขึ้น ขนาดจุใจถึง 8.2 ลิตร

ล้อแม็ก ขนาด 14″ เทรนด์สปอร์ตสุดแกร่ง

กุญแจรีโมท ANSWER BACK SYSTEM

เปิดช่องกุญแจอัตโนมัติพร้อมไฟเรืองแสง และส่งสัญญาณบอกตำแหน่งรถ

Colors สี New YAMAHA FINO 2016
New YAMAHA FINO 2016 มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ 1.สี เทา 2.สี น้ำเงิน 3.สี ขาว 4.สี ดำ 5.สี แดง

NewYAMAHA FINO 2016 สี เทา

NewYAMAHA FINO 2016 สี น้ำเงิน

NewYAMAHA FINO 2016 สี ขาว

NewYAMAHA FINO 2016 สี ดำ

NewYAMAHA FINO 2016 สี แดง

Specification New YAMAHA FINO 2016

สามารถสั่งจองแถวบ้านได้เลยนะครับ รถจักรยานยนต์ website ไม่มี contact ให้นะครับ เพราะร้านจักรยานยนต์หาง่ายครับ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-263-9999 Yamaha 24 ชม.

YAMAHA YZ 450F 2017 “สุขใจบนทางสายฝุ่น”

YAMAHA YZ 450F 2017

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 1 ลูกสูบ

ระบบระบายความร้อน : หม้อน้ำ

ขนาดความจุ : 449 ซีซี.

กระบอกสูบ x ระยะชัก : 97 x 60.8 มม.

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 12.5 : 1

จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง : ระบบหัวฉีด KEIHIN

ลื้นเลื่อน : ขนาด 44 มม.

เกียร์ : แบบธรรมดา 5 สปีด

ระบบคลัทช์ : คลัทช์เปียกสั่งงานด้วยสายสลิง

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่/สเตอร์

สวิงอาร์ม : อลูมิเนียม

ถังเชื้อเพลิงจุได้ : 7.5 ลิตร

ระยะห่างฐานล้อ : 1,480 มม.

ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) : 825 x 2,180 x 1,280

ความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่ง : 965 มม.

ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ : 330 มม.

น้ำหนักพร้อมขับขี่ : 112 กก.

ท่อไอเสีย : 1-1

ชิ้นงานบอดี้พาร์ท 14 ชิ้น
– การ์ดกันช็อคอับหน้า
– แป้นเบอร์หน้า
– ปีหม้อน้ำซ้าย/ขวา
– การ์ดรังผึ้งหม้อน้ำ
– ถังเชื้อเพลิง
– เบาะนั่ง
– แป้นเบอร์ข้างรถซ้าย/ขวา
– บังโคลนหน้า/หลัง
– การ์ดครอบจานเบรคหลัง
– ตัวดันโว่หน้าสเตอร์หลัง

ล้อเป็นแบบชนิดซี่ลวด/ยาง
– ล้อหน้า ขนาด 21 นิ้ว ขนาดยาง 80/100-21 นิ้ว
– ล้อหลัง ขนาด 19 นิ้ว ขนาดยาง 120/80-19 นิ้ว

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า ช็อคอับเทเลสโครปิค อัพไซด์ดาวน์ KATABA ขนาด 48 มม. ระยะการทำงาน 310 มม.
– ด้านหลัง ช็อคอับเดี่ยว KAYABA พร้อมพ่วงกับกระปุกซับแท้งค์ ปรับตั้งได้ ระยะการทำงาน 315 มม.

ระบบเบรก
– ด้านหน้า จานเบรกเดี่ยวแบบกึ่งให้ตัว ขนาด 270 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ ควบคุมด้วยระบบไฮดรอลิค
– ด้านหลัง ขนาด 245 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ ควบคุมด้วยระบบไฮดรอลิค

รถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆ ไปจะนิยมทำความเร็วและเกาะถนนให้มากที่สุด แต่พอมาเป็นรถสูตรทางฝุ่นอย่าง Motocross ก็จะมีความคิดที่ต่างออกไป มันต้องเบาให้มากที่สุด เพื่อเวลาที่รถกระโดดลอยตัวอยู่ในอากาศ แรงเฉื่อยที่ดันมาจากด้านหลังจะได้พาให้รถลอยไปไกล ซึ่งนักขับขี่เกือบทั้งหมดจะมีความสุขมากๆ ก็ตอนที่ล้อทั้งคู่ยกตัวขึ่นอยู่บนอากาศ แม้จะไม่ถึงขนาดเครื่องบิน แต่เชื่อเถอะว่านี่คือความสุขที่คนดูไม่มีทางรู้เลย ของแบบนี้ “ไม่ลองไม่รู้” ครับ

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.yamahamotorsports.com

Yamaha จัดคอร์สขับขี่สองล้อให้สมาชิก สรยท.

ค่ายสองล้อยามาฮ่าจัดกิจกรรมอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์เบื้องต้น “Learn to ride program” ให้กับสมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.)หวังเพิ่มความปลอดภัยและช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน พร้อมส่งต่อความรู้ด้านการขับขี่อย่างถูกวิธีถึงผู้ใช้รถจักรยานยนต์ต่อไป

สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ร่วมกับ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายจักรยานยนต์ยามาฮ่า จัดกิจกรรมการอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์เบื้องต้น ภายใต้หลักสูตร “Learn to ride program” ให้แก่สมาชิกของสมาคมฯ ณ สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า(YRA) ถนน บางนา -ตราด กม.21

โดยกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนาย กรธัช แก่นจันทร์ดา ผู้จัดการทั่วไป สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า และนางสรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวต้อนรับคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ และผู้เข้าร่วมการอบรม

นายยุทธพงษ์ ภาษี นายกสมาคมฯ สรยท. กล่าวว่า ประเทศไทยมีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงติดอันดับต้นๆ ของโลก โดยความเสี่ยงส่วนหนึ่งเกิดจากขาดความรู้และ ขาดการการถ่ายทอด ความรู้ด้านการขับขี่ปลอดภัยที่ถูกต้อง ในฐานะที่สมาคมฯ เป็นศูนย์กลางของสื่อมวลชนสายยานยนต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่จะช่วยเผยแพร่ความรู้ที่แท้จริงเหล่านี้ไปสู่สาธารณะได้ ดังนั้นจึงได้จัดกิจกรรมสำหรับสมาชิกฯ และครอบครัวสมาชิก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการรับรู้และตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้ยานพาหนะ ผ่านรูปแบบการอบรมหลักสูตรขับขี่ปลอดภัย โดยประโยชน์ของกิจกรรมนี้ ผู้เข้าอบรมไม่เพียงแต่จะปลอดภัยขึ้นเท่านั้น แต่ในฐานะสื่อมวลชนยังได้สัมผัสและนำความรู้ที่แท้จริงของเทคนิค การขี่จักรยานยนต์ และนำความรู้เหล่านี้ไปเผยแพร่ได้อย่างถูกต้อง

นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด
กล่าวว่า ยามาฮ่ารู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนการเผยแพร่ความรู้แก่สมาชิกและครอบครัวสมาชิกของสรยท. ซึ่งที่ผ่านมายามาฮ่า ให้ความสำคัญเกี่ยวกับ การขับขี่จักรยานยนต์ที่ถูกต้อง พร้อมกับการส่งเสริมความรู้เทคนิคต่างๆ ทางด้านการขับขี่จักรยานยนต์ ซึ่งได้ดำเนินงานก่อตั้ง สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มาตั้งแต่ ปี2550

ด้านนาย กรธัช แก่นจันทร์ดา ผู้จัดการทั่วไป สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า กล่าวว่า สำหรับหลักสูตรการอบรมของสถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีทั้งหมด 7 หลักสูตร ได้แก่ 1.หลักสูตรการสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ 2.หลักสูตรขับขี่ปลอดภัย 3.หลักสูตรการขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 4.หลักสูตรอบรมครูฝึกขับขี่ปลอดภัย 5.หลักสูตรการขับขี่รถจักรยานยนต์สำหรับมือใหม่ 6.หลักสูตรการขับขี่รถจักรยานยนต์มืออาชีพ และ 7.หลักสูตรการขับขี่รถจักรยานยนต์สำหรับเด็ก

ขณะที่กิจกรรม การอบรมให้แก่สมาชิกสมาคมฯ ในครั้งนี้เป็นหลักสูตรขับขี่ปลอดภัย เพื่อเพิ่มทักษะการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ถูกวิธีและปลอดภัยลดความสูญเสียทรัพย์สินและบุคลากรอันมีค่า ในหลักสูตรย่อย คือ หลักสูตรขับขี่ปลอดภัยขั้นพื้นฐาน หรือ “Learn to ride program”

โดยในภาคทฤษฎีช่วงเช้า เป็นอบรมเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รู้ถึงองค์ประกอบและหลักพื้นฐานการขับขี่ ส่วนภาคปฎิบัติช่วงบ่าย ตั้งแต่การปรับท่าทางการขับขี่ เทคนิคการขับขี่ การใช้เบรก การเข้าโค้ง การหยุด การจอด ฯลฯ ก่อนจะจบการอบรมด้วยการมอบประกาศนียบัตร ให้กับผู้เข้ารับอบรมทุกท่าน เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการขับขี่จักรยานยนต์ และนำไปเผยแพร่ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนต่อไป

อนึ่ง ก่อนเข้าสู่การอบรมภาคปฎิบัติในช่วงบ่าย นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด พร้อมด้วยสมาชิกฯ ที่เข้าอบรม ได้เข้าร่วมลงนามถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ รัชกาลที่ 9 ณ อาคารสำนักงาน บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ด้วย

พบกับกิจกรรมดีๆ สำหรับสมาชิกสมาคม และสามารถติดตามข่าวสารของ สมาคมฯ ได้ที่ www.tajathailand.com

Yamaha ดึง Rossi แชมป์โลกร่วมเปิดตัว Yamaha Aerox 155 ออโตเมติกสายพันธุ์สปอร์ตรุ่นใหม่ครั้งแรกของโลกที่สนามเซปัง

Yamaha Aerox 155 ออโตเมติกสายพันธุ์สปอร์ตครั้งแรกของโลก ณ สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย โดยมีนักแข่งชื่อดังของทีม Movistar Yamaha MotoGP อย่าง วาเลนติโน่ รอสซี่ แชมป์โลก 9 สมัย ร่วมทำการเปิดตัวในครั้งนี้ โดยการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 ในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั่วโลกรวมถึงคณะสื่อมวลชนไทย เข้าร่วมงานเปิดตัวอย่างคับคั่ง สำหรับรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 เป็นรถออโตเมติกสายพันธุ์สปอร์ตรุ่นใหม่ ที่ได้รับการออกแบบรูปลักษณ์มาแบบโฉบเฉี่ยว สปอร์ตเร้าใจ โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 155 ซีซี. เทคโนโลยี BLUE CORE ซึ่งเป็นเจเนอเรชันใหม่ของเครื่องยนต์ยามาฮ่า ที่พร้อมระบบวาล์วแปรผัน (VVA) และฟีเจอร์สุดล้ำสมัยอย่างครบครัน

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัท ยามาฮ่า มอเตอร์ (YMC) จัดงาน The Pan ASEAN Media launch เพื่อแถลงข่าวเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ “YAMAHA AEROX/NVX” ออโตเมติกสายพันธุ์สปอร์ต ณ สนาม เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล โดยได้รับเกียรติจาก CEO จาก ยามาฮ่ามอเตอร์ รวมทั้ง CEO จาก ประเทศไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และ เวียดนาม พร้อมผู้บริหารระดับสูง และสื่อมวลชนจากทั่วอาเซียนจำนวนมากเข้าร่วมในงานครั้งนี้

สำหรับ GDR155 ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้เป็นรถสกู๊ตเตอร์ระดับเรือธงในภาคพื้นอาเซียน ซึ่งได้รับการผสมผสานระหว่างรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวเข้ากับสมรรถนะการขับขี่สไตล์สปอร์ตได้อย่างลงตัว ภายใต้รหัสความเร้าใจ NVX ที่ใช้เรียกในประเทศเวียดนาม โดยในประเทศไทยจะใช้รหัสเรียกว่า AEROX โดยพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2016 เป็นต้นไป ส่วนในประเทศอินโดนีเซีย และประเทศอื่นๆ ในอาเซียนจะเริ่มวางจำหน่ายช่วงไตรมาสแรกของปี 2017 เป็นต้นไป

GDR155 ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “ASEAN Best Sporty Scooter” ที่วางกลุ่มเป้าหมายผู้ขับขี่หลักเป็นผู้ชายในช่วงอายุ 25-30 ปี ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์สไตล์สปอร์ต ระดับไฮคลาส โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์เจเนอเรชันยุคใหม่ของยามาฮ่าอย่าง BLUE CORE ที่ได้รับการติดตั้ง Smart Motor Generator ซึ่งทาง ยามาฮ่ามอเตอร์ (YMC) ได้ทำการพัฒนาขึ้นใหม่ พร้อมติดตั้งระบบที่หยุดการทำงานเครื่องยนต์และรีสตาร์ทใหม่ได้อย่างนุ่มนวล และเงียบกว่าโดยฟีเจอร์เด่นของออโตเมติกสายพันธุ์สปอร์ต รุ่นใหม่นี้มีดังนี้

– 155 ซีซี. เครื่องยนต์ BLUE CORE พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVA ที่ให้อัตราเร่งที่ดียิ่งขึ้น และประหยัดมากขึ้น
– Smart Motor Generator ที่ช่วยให้การสตาร์ทเครื่องยนต์มีความนุ่มนวล และเงียบ
– น้ำหนัก 118 กก. เพื่อการขับขี่ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น
– รูปลักษณ์การออกแบบที่สะท้อนถึงกล้ามเนื้อของนักกีฬา
โดยนอกจากรุ่นมาตรฐานแล้ว ยังมีรุ่น R Version ที่ได้รับการติดตั้งกันสะเทือนหลังที่ใช้โช้คอัพแบบซับแท็งค์ พร้อมระบบดิสก์เบรกหน้าแบบ ABS และรุ่น A/I Version ที่มาพร้อมระบบ Stop & Start และกุญแจอัจฉริยะ โดยรถรุ่นนี้มีสายการผลิตทั้งจากประเทศไทย, เวียดนาม และอินโดนีเซีย

Yamaha ส่งมอบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าบิ๊กไบค์ Bolt R

นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ (คนที่ 3 จากซ้าย) ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมทำการมอบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าบิ๊กไบค์ รุ่น Bolt R ให้กับ พลเอกทวีป เนตรนิยม (คนที่ 4 จากขวา) เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ให้ความมั่นใจในสมรรถนะ และคุณภาพรถจักรยานยนต์ของยามาฮ่า โดยการส่งมอบนี้จัดขึ้น ณ โชว์รูม ยามาฮ่าไรเดอร์สคลับ เกษตร-นวมินทร์ (YRC) เมื่อเร็วๆ นี้

สมาชิกยามาฮ่าคลับน้อมเกล้าฯ ร่วมถวายความอาลัย และเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

นางวารุณี เตชะบุญประทาน ผู้จัดการส่วนบริหารลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด พร้อมด้วยสมาชิกยามาฮ่าคลับ จำนวนกว่า 100 คน ร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ เข้าถวายความอาลัย และเข้าถวายการสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง โดยเมื่อเสร็จสิ้นจากการถวายสักการะ เหล่าสมาชิกยามาฮ่าคลับต่างพร้อมใจกันสวมเสื้อ “ภูมิใจที่เกิดในรัชกาลที่ 9″ เพื่อถวายความจงรักภักดี และถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกด้วยความพร้อมเพรียง เมื่อเร็วๆ นี้

ซื้อ Yamaha Spark ช้อปฟรี 2,000 บาท + ชุดบำรุงรักษา 2 ปี ขยายเวลาพิเศษถึงสิ้นปี

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายรถจักรยานยนต์คุณภาพชั้นนำของประเทศไทย ส่งรถครอบครัวสุดประหยัด ยามาฮ่าสปาร์ค มาพร้อมกับการขยายเวลาโปรโมชั่นสุดพิเศษถึงสิ้นปี เมื่อซื้อรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าสปาร์ค ทุกรุ่นตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน – 31 ธันวาคม 2559
รับฟรีทันที!!!
– บัตรกำนัล Big C มูลค่า 2,000 บาท และฟรี!
– ชุดบำรุงรักษา 2 ปี หรือ 20,000 กม.* มูลค่า 4,222 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 6,222 บาท

เงื่อนไขโปรโมชั่น
• ลูกค้าที่ซื้อรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าสปาร์ค ทุกรุ่นระหว่างวันที่ 1 กันยายน ถึง 31 ธันวาคม 2559 รับทันที บัตรกำนัลบิ๊กซี มูลค่า 2,000 บาท พร้อมรับ บัตรยามาฮ่า สมาร์ทแคร์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรองน้ำมันเครื่องฟรี! 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร รวม 20 รายการ มูลค่า 4,222 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 6,222 บาท
• ลูกค้าที่ซื้อรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าสปาร์ค ทุกรุ่นสามารถรับสิทธิ์ได้ที่ยามาฮ่า สแควร์ และร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าที่ท่านได้ซื้อรถมาเท่านั้น
• ลูกค้าที่ซื้อรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าสปาร์ค ทุกรุ่นจะได้รับบริการหลังการขาย ฟรี 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร

เงื่อนไขการใช้บัตรยามาฮ่าสมาร์ทแคร์มีดังนี้
1.1 บัตรยามาฮ่าสมาร์ทแคร์สามารถใช้สิทธิ์ได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายยามาฮ่าทั่วประเทศ
1.2 บัตรยามาฮ่าสมาร์ทแคร์นี้ใช้ร่วมกับสมุดคู่มือรับประกันที่มาพร้อมกับตัวรถ
1.3 บัตรยามาฮ่าสมาร์ทแคร์นี้ใช้กับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่ารุ่นสปาร์คทุกรุ่นตามหมายเลขเครื่อง ที่ได้ระบุตอนลงทะเบียนครั้งแรกเท่านั้น และต้องแสดงบัตรยามาฮ่า สมาร์ทแคร์ก่อนใช้สิทธิ์ทุกครั้ง
1.4 บัตรยามาฮ่าสมาร์ทแคร์นี้ใช้ตามระยะตรวจเช็คตรงกับที่ระบุในรายละเอียดเท่านั้น
1.5 บัตรยามาฮ่าสมาร์ทแคร์นี้ฟรีค่าอะไหล่เฉพาะรายการที่ระบุไว้เท่านั้น
1.6 บัตรยามาฮ่าสมาร์ทแคร์นี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่นๆ ได้
1.7 บัตรยามาฮ่าสมาร์ทแคร์ และสิทธิ์ภายใต้รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ และลูกค้าไม่สามารถนำอะไหล่ออกจากร้านไปเปลี่ยนเองได้
1.8 บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
1.9 สิทธิประโยชน์สิ้นสุดลงเมื่อลูกค้าใช้รถจักรยานยนต์ยามาฮ่ารุ่นสปาร์คทุกรุ่น ครบ 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร หรือบัตรยามาฮ่าสมาร์ทแคร์สูญหาย

• ลูกค้าที่ได้รับสิทธิ์จะต้องเป็นบุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
• บัตรกำนัลบิ๊กซีไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ในทุกกรณี และไม่สามารถทอนเป็นเงินสดได้ สามารถใช้ได้ที่บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า บิ๊กซีจัมโบ้ และบิ๊กซี มาร์เก็ต ทุกสาขา โปรดตรวจสอบเงื่อนไข และรายละเอียดการใช้ด้านหลังบัตรกำนัล
• บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข และสิทธิประโยชน์โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center: 02-263-9999 หรือที่ www.yamaha-motor.co.th

เปิดตัว Yamaha AEROX 155 และ Yamaha XSR900 ภายใต้แนวคิด Yamaha “Revs your Soul” ในงาน Motor Expo 2016

ยามาฮ่าจัดหนักส่งท้ายปี 2016 ด้วยการยกทัพรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ครบรุ่น พร้อมเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดในงาน The 33rd Thailand International Motor Expo 2016 ภายใต้คอนเซ็ปต์บูธ Yamaha “Revs your Soul” เร่งเร้าถึงจิตวิญญาณของคุณ ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษภายในงาน ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2559 นี้ ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี

นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า“จากการที่ตลาดรถกลุ่มสปอร์ตขยายตัวอย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมา ยามาฮ่าเองมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ส่วนแบ่งทางการตลาดของยามาฮ่าในกลุ่มรถสไตล์สปอร์ตเพิ่มขึ้นเป็น 24% ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมของยามาฮ่า ในปีนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 14.5% ดังนั้นในงาน The 33rd Thailand International Motor Expo 2016 ภายใต้แนวคิด Yamaha “Revs your Soul” จึงได้มีไฮไลท์สำคัญ คือ การเปิดตัวรถจักรยานยนต์ Yamaha AEROX 155 ที่สุดแห่งสปอร์ตออโตเมติก เครื่องยนต์บลูคอร์ 155 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแปรผัน (VVA) และฟีเจอร์สุดล้ำสมัยอย่าง ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Key System และระบบดับเครื่องยนต์อัจฉริยะ Stop & Start System รวมถึงช่องชาร์จไฟ 12 โวล์ท เพื่ออำนวยความสะดวกในการชาร์จแบตฯ เป็นต้น ซึ่งเป็นฟีเจอร์มาตรฐานที่มีอยู่ในทุกรุ่น โดยมาพร้อมราคาเริ่มต้นที่ 63,900 บาท และโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อมอบให้กับลูกค้าที่ตัดสินใจเป็นเจ้าของ Yamaha AEROX 155 ภายในงานนี้เท่านั้น

และอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ คือ การเปิดตัว XSR900 รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ แนว Sport Heritage ที่หลายคนรอคอย ด้วยรูปลักษณ์อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานกับเครื่องยนต์แห่งอนาคตขนาด 850 ซีซี 3 สูบเรียง ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ โดยเปิดตัวในราคา 429,000 บาท พร้อมรับจองภายในงาน

ปิดท้ายด้วย M-SLAZ สีพิเศษ Dark Edition เพื่อตอกย้ำกระแสตอบรับการเปิดตัวทำลายทุกสถิติยอดจองรถจักรยานยนต์ในงาน Motor Expo ครั้งที่ผ่านมา โดยภายในงานนี้เราได้จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมายให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจเป็นเจ้าของในราคา 90,500 บาท ครับ”

ยามาฮ่าตั้งเป้าการขายรถบิ๊กไบค์ และสแตนดาร์ดไบค์ ภายในงาน The 33rd Thailand International Motor Expo 2016 อยู่ที่ 1,000 คัน โดยจัดให้มีโปรโมชั่นพิเศษเพื่อกระตุ้นการขาย ดังนี้

รายละเอียดสำหรับโปรโมชั่นภายในงาน

• Big Bike Promotion ข้อเสนอเดียวกับ Yamaha Riders’ club ทั่วประเทศ
* ซื้อ SUPER TENERE, Bolt-C, Bolt-R, FJ-09, MT-09, MT-07 รับฟรี ของแถม สุดพิเศษรวมมูลค่าสูงสุด 57,000 บาท* (*มูลค่ารวมขึ้นอยู่กับมูลค่าของประกันภัย ชั้น 1 และมูลค่า Gift Voucher ของรถแต่ละรุ่น)
* ซื้อ Yamaha SR400 ฟรี Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท
* พิเศษ เฉพาะภายในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป จองรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ทุกรุ่น ขนาด 500 ซีซี ขึ้นไป ลุ้นจับรางวัลส่วนลด มูลค่าสูงสุดถึง 20,000 บาท

• Standard Bike Promotion ข้อเสนอเดียวกับ Yamaha Square ทั่วประเทศ
* ซื้อ Yamaha AEROX 155 รับสิทธิ์แลกซื้อ กระเป๋า Demon Jet (มูลค่า 4,000 บาท) ในราคาเพียง 1,000 บาท
* ซื้อ Yamaha MT-03 หรือ Yamaha YZF-R3 รับฟรีของแถมสุดพิเศษ รวมมูลค่าสูงสุด 26,000 บาท
* ซื้อ Yamaha Spark รับฟรี บัตรกำนัล Big C และชุดบำรุงรักษา 2 ปี หรือ 20,000 กม. รวมมูลค่า 6,222 บาท

• Apparel & Accessories โปรโมชั่นสุดพิเศษ

* เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย MotoGP Collection 2016 ลดพิเศษ 25%
* อุปกรณ์ตกแต่งแท้ ยามาฮ่า ลดสูงสุด 70%
* เคมีภัณฑ์ ยามาฮ่า ภายใต้แบรนด์ ยามาลู้ป ลดสูงสุด 20%

สินค้าพิเศษ เฉพาะงาน Motor Expo 2016 นี้งานเดียวเท่านั้น
* หมวกกันน็อค Tricity ราคาพิเศษ เพียง 999 บาท/ใบ จากราคาปกติ 3,200 บาท
* ถุงมือครึ่งนิ้ว Daytona ราคาพิเศษ เพียงคู่ละ 99 บาท/คู่ จากราคาปกติ 490 บาทต่อคู่ สินค้ามีจำนวนจำกัด
* กระจกมองหลัง ยามาฮ่า เลนส์สีฟ้าราคาพิเศษ 99 บาท/ชิ้น จากราคาปกติ มูลค่า 375 บาทต่อชิ้น

สำหรับภายในบูธ Yamaha “Revs Your Soul” แบ่งออกเป็น 4 โซน หลักดังนี้

R-Series Zone : DNA สายพันธุ์สปอร์ตตระกูล R ที่จะปลุกเร้าทุกสัญชาตญาณในตัวคุณ
• YZF-R1M และ YZF-R1 เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 998 ซีซี ซูเปอร์สปอร์ตตัวแข่ง แบบ Full Option และรถซูเปอร์สปอร์ตที่รวมเทคโนโลยีจากสนามแข่ง MotoGP ออกแบบเพื่อการแข่งขัน และการขับขี่บนท้องถนน
• YZF-R3 สปอร์ตไบค์ที่เร้าใจทุกโสตสัมผัส เครื่องยนต์ขนาด 321 ซีซี มาพร้อมลายทีมแข่งยามาฮ่า MotoGP ที่ให้ประสบการณ์เหมือนขับขี่ในสนามแข่ง
• YZF-R15 ปฐมบทแห่งความเร้าใจกับเครื่องยนต์ขนาด 150 ซีซี สำหรับผู้ที่หลงใหลรถจักรยานยนต์สไตล์สปอร์ตไบค์

MT-Series Zone : ฉีกกฏทุกความเร้าใจไปกับรถสไตล์ Sport Naked ตอบโจทย์ทุกความคล่องตัวของสภาพท้องถนน
• MT-10 ท๊อปคลาสสปอร์ตเน็กเก็ต พี่ใหญ่แห่งตระกูล MT เครื่องยนต์ 998 ซีซี เทคโนโลยีเดียวกับตัวแข่งอย่าง YZF-R1 แรงสะใจขาบิด
• MT-09 อสูรกายแห่งรัตติกาล เครื่องยนต์ 3 สูบ 850 ซีซี เสริมอุปกรณ์พิเศษเพิ่มความโดดเด่นในยามรัตติกาล
• MT-07 สุดขีดแห่งมาตรฐานสปอร์ตเน็กเก็ต ด้วยเครื่องยนต์ 689 ซีซี ทรงพลัง เพิ่มองศาความดุดันให้ถึงขีดสุด
• MT-03 ที่สุดแห่งความลงตัว ขนาดกระชับ น้ำหนักเบา เครื่องยนต์ 321 ซีซี
• M-SLAZ องศาแห่งความเร้าใจ เครื่องยนต์ 150 ซีซี โช้คอัพหน้า Upside Down ขนาดใหญ่ มันส์สุดในทุกการขับขี่ เพิ่มความเท่ยิ่งขึ้นด้วยสีใหม่ในสไตล์ Dark Edition

Adventure & Life Style Zone : สุดยอดสมรรถนะรถจักรยานยนต์ในสไตล์ Adventure และรถที่ลงตัวกับทุกสไตล์การขับขี่
• SUPER TENERE รถสไตล์ Adventure touring พันธุ์แท้ ขุมพลัง 1,200 ซีซี เสริมด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงของยามาฮ่าอย่างครบครัน
• FJ-09 Adventure touring สายพันธุ์ใหม่ ขุมกำลัง 850 ซีซี คงความดุดันอย่าง MT-09 เพื่อสัมผัสการขับขี่สไตล์ทัวร์ริ่งอย่างแท้จริง
• TMAX อีกระดับของออโตเมติกสายพันธุ์สปอร์ต Big Scooter ระดับพรีเมี่ยม ด้วยเครื่องยนต์ 530 ซีซี ขับเคลื่อนสนุกเหมือนรถสปอร์ต มาพร้อมกับ TMAX Iron Max เพิ่มความสปอร์ต และพรีเมี่ยมยิ่งขึ้นอีกระดับ

Sport Heritage Zone :
• Bolt-R และ Bolt Café Racer ครุยเซอร์ระดับพรีเมี่ยม ผสมผสานสมรรถนะอันทรงพลัง เครื่องยนต์ 942 ซีซี เข้ากับการควบคุมที่สง่างามลงตัว
• SR400 เสน่ห์ของความเป็นต้นแบบสไตล์ Retro คุณค่าที่แท้จริงเหนือกาลเวลาจากยุค 70 ด้วยเครื่องยนต์สูบเดี่ยว 400 ซีซี และเสียงกระหึ่มที่ครองหัวใจนักบิดมากว่า 35 ปี
• XSR900 รถสไตล์ Sport Heritage ตัวแรง ด้วยขุมพลัง 850 ซีซี มาพร้อมกับรูปแบบดีไซน์ที่ย้อนยุคเหนือกาลเวลา เปิดราคาแนะนำสุดพิเศษให้ชาวไทยได้เป็นเจ้าของก่อนใคร

พบกับกองทัพรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าที่เต็มไปด้วยความเร้าใจแห่งการขับขี่กันได้ที่ บูธ Yamaha “Revs Your Soul” ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2559 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี

Thai Yamaha เหมาแถวหน้าบิดเอเชีย ลุ้นคว้าชัยโฮมเรซ

เฉลิมพล ผลไม้ ดาวบิดจอมเก๋าชาวไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ผงาดคว้าโพลซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. โดยมี เดชา ไกรศาสตร์ และอนุชานาคเจริญศรี ทีมเมทขนาบข้างในกริดที่ 2 และ 3 ขณะ อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ คว้าโพลในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น โดยนัดบิดไทยมีโอกาสลุ้นฉลองแชมป์ส่งท้ายฤดูกาลในบ้านเกิด สุดสัปดาห์นี้ที่บุรีรัมย์

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2016 สนามสุดท้าย มีคิวดวลความเร็วระหว่างวันที่ 2-4ธันวาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ล่าสุดในวันศุกร์ที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นการจับเวลารอบควอลิฟาย เพื่อจัดอันดับสตาร์ท

โดยรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. ปรากฏว่าแถวหน้าของกริดสตาร์ทตกเป็นของนักบิดทั้ง 3 คนจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ซึ่งโพลโพซิชั่นได้แก่เฉลิมพล ผลไม้ ที่ลงบิดด้วยสิทธิ์ไวด์การ์ด เวลาต่อรอบ 1 นาที 38.547 วินาที เฉือนทีมเมทอย่าง เดชา ไกรศาสตร์ เพียง 0.022 วินาที ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ อนุชา นาคเจริญศรี ตามหลังหัวแถวเพียง 0.354 วินาที เท่านั้น

ส่วนนักบิดไทยคนอื่นๆ ทำผลงานไม่เลว ฐิติพงศ์ วโรกร จาก ฮอนด้า ติ๊งโน๊ต เรซซิ่ง ออกสตาร์ทในกริดที่ 9 ตามด้วย รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จากเอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในกริดที่ 12 ด้าน พาทิศ ชูประเทศ ดาวรุ่งไทยจาก ทีม คากายาม่า ซูซูกิ เอเชีย ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 22

ด้านผลการควอลิฟายในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ปรากฏว่าโพลโพซิชั่นตกเป็นของ อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ แชมป์เอเชียจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์เรซซิ่งทีม ที่แม้จะคว้าแชมป์ประจำปีไปครองก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม แต่ยังกดเวลามาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 55.203 วินาที เฉือน ทาเคฮิโรยามาโมโต้ นักบิดญี่ปุ่นจาก ทริคสตาร์ เรซซิ่ง ในอันดับ 2 เพียง 0.224 วินาที เท่านั้น ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ เกลัง เฮนดร้า พราทาม่า ดาวรุ่งอินโดนีเซียนจาก ยามาฮ่า เรซซิ่ง อินโดนีเซีย ตามหลังหัวแถว 0.606 วินาที

นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันในรุ่น อันเดอร์โบน 130 ซี.ซี. ที่ลงจับเวลารอบซูเปอร์โพล เพื่อจัดอันดับสตาร์ทในวันเดียวกัน โดยโพลโพซิชั่นในรุ่นนี้ตกเป็นของ โมฮัมหมัด ฮาฟิซ ไฟรุส นักบิดมาเลเซีย ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 09.533 วินาที เฉือนอันดับ 2 อย่าง วาห์ยุ อาจิ ทริลักซานา นักบิดอินโดนีเซียนจาก ทีพีเค48 บีเคเอ็มเอส อินโดนีเซีย เพียง 0.355 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ อาห์มัด ฟาซลี ชาม นักบิดมาเลเซีย จาก อูม่า เรซซิ่ง ยามาฮ่า มาจูมอเตอร์ ตามหลังหัวแถว 0.507 วินาที

สำหรับโปรแกรมในสุดสัปดาห์นี้จะแข่งขันเรซแรกในวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม และปิดท้ายการแข่งขันเรซ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคมนี้ แฟนมอเตอร์สปอร์ตที่สนใจเข้าชมการแข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2016 สามารถหาซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันได้ที่ห้องจำหน่ายบัตรหน้า สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และบุรีรัมย์ คาสเซิล รวมถึง ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดย VIP LOUNGE 1 วัน ราคา 1,000บาท/ 2 วัน 1,500 บาท, GRANDSTAND 1 วัน ราคา 200 บาท/ 2 วัน 300 บาท, SIDESTAND 1 วัน ราคา 100 บาท/ 2 วัน 150 บาท สอบถามได้ที่โทร 02-262-3456 หรือ 091-716-3366

Yamaha รับรางวัล PMAT HR AWARDS 2016

นายศักดา หอมฟุ้ง (คนขวา) ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ขึ้นรับรางวัล และเกียรติบัตร PMAT HR AWARDS 2016 ประเภท นักบริหารทรัพยากรบุคคลดาวเด่น จากสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) โดยมี ท่านพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา (คนซ้าย) ประธานกรรมการมูลนิธิศึกษาพัฒน์ และผู้อำนวยการใหญ่ดรุณสิกขาลัยโรงเรียนนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้ของมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี ให้เกียรติเป็นผู้มอบรางวัล โดยพิธีมอบรางวัลนี้ จัดขึ้น ณ ห้องวิภาวดีบอลรูม โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้

Yamaha ยอดทะลุ 1,040 คัน ทะลุหลักพัน 2 ปีซ้อนในงาน Motor Expo 2016

Yamaha เปิด 3 รถใหม่ทำยอดขายถล่มทลาย 1,040 คันสร้างสถิติยอดขายสูงสุดเกิน 1,000 คัน เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันในงาน Motor Expo โดยในปีนี้บูธยามาฮ่า “Revs Your Soul” ได้ทำการเปิดตัวรถจักรยานรุ่นใหม่ถึง 3 รุ่น คือ AEROX 155 ออโตเมติกสายพันธุ์สปอร์ต, M-SLAZ Drak Edition และ XSR900 บิ๊กไบค์สไตล์ Sport Heritage พร้อมกับนำรถรุ่นอื่นๆ หลากหลายสไตล์อีก 13 รุ่น มาจัดแสดง ทำให้มีผู้ให้ความสนใจเข้าชมบูธเป็นจำนวนมาก ในงาน Motor Expo 2016 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม ที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี

YAMAHA VMAX 60th Anniversary “สปอร์ตครูสเซอร์ สุดล้ำ!! จากแดดปลาดิบ”

YAMAHA VMAX 60th Anniversary

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 4 สูบ DOHC

ลูกสูบ : แบบอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา

ระบบระบายความร้อน : หม้อน้ำและชุดพัดลมไฟฟ้า

ความจุเครื่องยนต์ : 1,679 ซีซี.

จากกระบอกสูบ X ระยะชัก : 90 X 66 มม.

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 11.3:1

ระบบการจ่ายเชื้อเพลิง : ด้วยระบบหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ MIKUNI

ขนานเรือนลลิ้นเร่ง : 48 มม.

องศาการเปิดปิดวาล์ว : ควบคุมการทำงานควบคู่กับระบบ YCC-T (Yamaha Chntrolled Throttle) และ YCC-I (Yamaha Chip Controlled Intake)

ชุดเกียร์ : แบบธรรมดา 5  สปีด พร้อมชุด Slipper Clutch

ระบบคลัทช์ : เป็นแบบเปียกสั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ : ระบบไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน : ด้วยเพลา

ทำความเร็วสูงสุด : 200 กม./ชม.

เฟรม : อะลูมิเนียมน้ำหนักเบา

ไฟหน้า : ฮาโลเจน แบบจอกลม

ไฟหลัง : แบบ LED

เรือนไมล์ : เน้นอารมณ์สปอร์ตพร้อมชิฟท์ไลท์กะพริบแสดงการเปลี่ยนเกียร์

ถังน้ำมันจุได้ : 15 ลิตร

ทรงท่อไอเสีย : 4-2-2 ให้สำเนียงสุภาพนิ่มๆ แต่ดุ

ยาว x กว้าง x สูง : 2,395 x 820 x 1,191 มม.

ความสูงจากผื้นถึงรถ : 140 มม.

ความสูงจากผื้นถึงเบาะ : 774 มม.

ระยะฐานล้อ : 1,669 มม.

น้ำหนักตัวรถพร้อมขับขี่ : 310 กิโลกรัม

ระบบกันสะเทือน
– หน้า เป็นแบบช็อคอับเทเลสโคปิคหัวกลับผิวแกนเคลือบด้วย DLC สีดำวาว ขนาด 52 มม. สามารถปรับตั้งได้ ระยะการทำงานที่ 120 มม.
– หลัง ช็อคเดี่ยวซุกตัวอยู่ด้านในปรับตั้งได้เต็มรูปแบบระยะการทำงานที่ 110 มม.

เบรก / มาพร้อมระบบ ABS
– หน้าใช้เป็นดิสแบบคู่กึ่งให้ตัวได้ ขนาด 320 มม. คาลอเปอร์ 6 ลูกสูบของ BREMBO
– หลังใช้เป็นแบบเดี่ยวกึ่งตายตัวขนาด 298 มม. คาลอเปอร์ 1 ลูกสูบของ BREMBO

นี่คือครูสเซอร์ที่น่าสนใจและน่าขี่มากที่สุดอีกหนึ่งรุ่นจาก YAMAHA ที่ถือกำเนิดในปี ค.ศ.1985 โดยรถรุ่นนี้ไม่ได้ขายเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกด้วยสีแห้งช้ากับงานโครเมี่ยมเงาๆ เหมือนค่ายอื่นๆ หากแต่ YAMAHA ต้องการนำเสนอความแรงแบบ V 4 ที่ทุกวันนี้ยังไม่มียังไม่มีค่ายไหนทำได้เหมือน รถที่เรากำลังจะพูดถึงอยู่นี้ก็คือ VMax 1700 รุ่นฉลอง 60 ปี รำลึกถึงลายกร๊าฟฟิค  “เหลือง-ดำ” บนตัวรถแข่งทีม Yamaha’s US Racing ในยุค 70 และ 80 หรือจะเรียกว่า “หาจุดเด่นมาเป็นจุดขาย” ก็น่าจะใช่

ขอขอบคุณภาพจาก www.yamaha-motor.eu

YAMAHA YZF-R6 2017 “พี่ชายคนกลางซีรี่ส์ R หนึ่งในตระกูลแดนซามูไร”

YAMAHA YZF-R6 2017

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 4 สูบเรียง DOHC

ระบายความร้อน : ด้วยน้ำ

ปริมาตรกระบอกสูบ : 599 ซีซี.

ระบบวาล์ว : DOHC 16 วาล์วไททาเนี่ยม

ขนาดกระบอกสูบ X ช่วงชัก : 67 มม. X 42.5 มม.

อัตราส่วนการอัด : 13.1 : 1

ระบบเกียร์ : 6 เกียร์

กำลังสูงสุด : 91 แรงม้า ที่ 14,500 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด : 65.7 นิวตัน-เมตร ที่ 10,500 รอบ/นาที

ไฟหน้า : แบบ 2 ดวงขวาซ้าย แบบ LED

ไฟท้าย : แบบ LED ทรงสปอร์ท

เบาะนั่ง : แบบแยก 2 ตอนยกระดับ

ถังน้ำมัน : อะลูมิเนียม

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : แบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ YAMAHA Chip Controlled Throttle (YCC-T) กับ YAMAHA Chip Controlled Intake (YCC-I) ควบคุมด้วยกล่อง ECU

ระบบจุดระเบิด : (TCI) Transistor Controlled lgnition

ระบบคลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค

สวิงอาร์ม : เป็นแบบ Reltabox ที่ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมพร้อมตัวซับเฟรมที่ทำจากวัสดุแม็กนีเซี่ยม แบบเดียวกับ R 1

เรือนไมล์ : เป็นแบบดิจิตอลผสมอะนาล็อกพร้อมชิฟท์ไลท์

ระบบสตาร์ท : ไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน : โซ่/สเตอร์

ชุดแฟริ่ง : ถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ พร้อมด้วยช่องแร็มแอร์ตรงกลางเพื่อให้กระแสลมเข้าไประบายความร้อน

แฟริ่งด้านท้าย : เน้นความเป็นสปอร์ต

กว้าง X ยาว X สูง : 695 X 2,040 X 1,150 มม.

ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 850 มม.

ความยาวฐานล้อ : 1,375 มม.

ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ : 130 มม.

น้ำหนักสุทธิ : 190 กก.

ถังเชื้อเพลิง : 17 ลิตร

ระบบเทคโนโลยี
– Traunction Control System (TCS) ระบบควบคุมการลื่นไถลซึ่งปรับตั้งค่าการทำงานได้ถึง 6 ระดับ และสามารถเปิด / ปิด แทร็คชั่นคอนโทรลได้
– Launch Control System (LCS) ระบบควบคุมการออกตัว
– Quick Shift System (QSS) เปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องบีบคลัทช์
– ยังมีโหมดคันเร่งไฟฟ้าพร้อมทั้งโหมดการขับขี่ถึง 3 โหมด ช่วยตอบสนองต่อคันเร่งได้เต็มประสิทธิภาพในทุกย่านการขับขี่

ล้อ/ยาง
– ด้านหน้าอัลลอยลาย 5 ก้าน 17 นิ้ว / ยาง 120/70 ZR 17 นิ้ว
– ด้านหลังอัลลอยลาย 5 ก้าน 17 นิ้ว / ยาง 180/55 ZR 17 นิ้ว

ระบบกันสะเทือน
– หน้า แบบเทเลสโคปิคหัวกลับขนาด Up-side Down 43 มม. ของ KAYABA ปรับตั้งค่าได้แบบเดียวกับ R 1
– หลัง แบบเดี่ยว ของ KAYABA ปรับตั้งได้

ระบบเบรก ABS
– หน้า ดิสค์คู่ขนาด 320 มม. ปั้มเบรค 4 ลูกสูบ Monoblock ของ BREMBO
– หลัง ดิสค์เดี่ยว 220 มม. ปั้มเบรค 2 ลูกสูบ

YAMAHA YZF-R 6 นับว่าเป็นอีดหนึ่งโมเดลในคลาส Sport Bike ไซส์กลางในพิกัด 600 ซีซี. ที่น่าใช้สำหรับผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบพละกำลังที่มากับรูปทรงไม่ใหญ่โตนัก ได้รับการพัฒนามาจาก YZF-R 1 ตัวแรงประจำตระกูลเน้นความเป็นสปอร์ตเต็มตัวพร้อมด้วยเทคโนโลยีจากสนามแข่ง Moto GP

ขอขอบคุณภาพจาก www.yamahamotorsports.com

รีวิว Yamaha XSR900 เอาใจคนรักรถรูปแบบนีโอเรโทร สนุกด้วยหัวใจสปอร์ต

เชื่อว่าแฟนๆ ค่าย Yamaha หลายคน คงรอคอยรถ Yamaha XSR900 ร่างจำแลงของ MT-09 ในไลน์อัพ Sport Heritage ซึ่งคงสไตล์รถเรโทร ในแบบโมเดิร์นได้อย่างมีสไตล์คันนี้

ล่าสุดมันได้เปิดตัวไปแล้วภายในงาน Motor Expo 2016 ซึ่งมากับราคา 4.29 แสนบาท ถือว่าถูกกว่าที่คาดกันเอาไว้ และในวันนี้ทาง 9carthai เราจึงขอมารีวิวกันแบบหมาดๆ กับ นีโอเรโทร คันใหม่ Yamaha XSR900 คันนี้กันครับ

Yamaha XSR900 คันที่เราได้มีโอกาสสัมผัสคันนี้เป็นสี Titanium Blue ซึ่งเป็นสีใหม่ของปี 2017

XSR900 ถูกจัดอยู่ในคลาส Sport Heritage รูปทรงภายนอกถูกออกแบบโดยสำนักแต่งชื่อดัง Roland Sands Design

ไฟหน้ากลม หลอดฮาโลเจน ขายึดเป็นอลูมีเนียม แสดงถึงความเรโทรโดยแท้

ไฟท้ายทรงกลมเช่นกัน แต่เป็นหลอด LED ให้ความรู้สึกเป็นรถร่วมสมัย

มาตรวัดถ้วย ซึ่งแสดงผลแบบดิจิตอลพื้นดำ แสดงผลครบ ความเร็วเป็นตัวเลข, วัดรอบเป็นสเกลที่ขอบด้านบน, บอกตำแหน่งเกียร์, Odo, Trip 1-2, อัตราสิ้นเปลืองทั้งแบบ km/l และ mpg, เกจ์น้ำมัน, อุณหภูมิ อีกทั้งลูกเล่นไฟ ECO ขึ้น เพื่อ Coaching ผู้ขี่ในแบบประหยัดน้ำมัน

สวิทช์ไฟซ้าย มีปุ่มสามารถปรับ TCS ทางด้านสวิทช์ไฟขวา มีปุ่มปรับ Mode ขับขี่ และสวิทช์ไฟฉุกเฉิน

ถังน้ำมันอลูมีนัม ใหม่ ขนาด 14 ลิตร ได้รับการออกแบบให้ดูคลาสสิค ลงตัวเช่นเดียวกับบังโคลนหลังอลูมีเนียม

ตัวรูกุญแจที่อยู่ทางด้านนอกของตัวแฮนด์ไกลออกไปทำให้การบิดนั้นอาจจะลำบากหน่อย ซึ่งก็เป็นรูปแบบเดียวกับ MT-09

Yamaha XSR900 มีน้ำหนักตัว 195 ก.ก. ความสูงเบาะอยู่ที่ 830 มม.
มันหนักกว่าและสูงกว่า MT-09 ที่มีน้ำหนัก 191 กก. และความสูง 815 มม. ซึ่งน้ำหนักอาจไม่ต่างนัก แต่

ในส่วนของท่านั่งนั้น พบว่า ด้วยความสูงเบาะ 830 มม. ผู้เขียนสูง 174 ซม. รู้สึกได้เลยว่ามันสูงขึ้นจาก MT-09 พอสมควร แต่ยังสามารถเหยียบได้เต็มเท้าเมื่อสวมรองเท้าบูท การที่เบาะสูงขึ้นนี้ ทำให้ตำแหน่งแฮนด์นั้นเปลี่ยนไปด้วย ดูจะต่ำลง และแฮนด์องศาดูกางออกไปด้านหน้ามากกว่าด้วย คือมันดูสปอร์ตกว่า MT-09 ที่แฮนด์ตำแหน่งสูงกว่า และองศาจะเอื้อต่อการหักเลี้ยวมากกว่า

ผิวสัมผัสเบาะแบบกัมมะหยี่ นอกจากนี้รูปแบบเบาะ ซ้อนท้ายที่ถูกยกระดับขึ้นมา นั่นจะทำให้ตำแหน่งผู้ซ้อนยิ่งสูงขึ้นกว่า MT-09 ขึ้นไปอีกระดับด้วย

เครื่องยนต์ CP3 (3 สูบเรียง) หยิบยกมาจาก MT-09 ความจุ 847cc CP3 ถูกวางประจำการลงใน 2017 XSR900 คันนี้
มีให้กำลัง 113 แรงม้า@10,000rpm (ม้าน้อยกว่า MT-09 2 ตัว) และทอร์ค 64.5 ปอนด์-ฟุต@8,500rpm (เท่ากันกับ MT-09) นอกจากนี้มันยังคงใช้พื้นฐานอื่นๆเดียวกันกับ FZ/MT-09

โหมดขับขี่ 3 โหมด A (Sport), Standard, B (Rain) ปรับได้ผ่านสวิทช์ขวามือ

ในโหมด B จะรู้สึกถึงคันเร่งที่หน่วงมือพอประมาณ ที่จริงแล้วโหมดนี้ใช้ในช่วงที่ฝนตก หรือขับขี่แบบเรื่อยๆ ไม่เน้นพละกำลังสูงสุด ซึ่งจะช่วยป้องกันล้อหมุนฟรี และ คุมคันเร่งได้ง่ายเนียนยิ่งขึ้นหากยังไม่ชินรถในช่วงแรก
สำหรับโหมด std โหมดที่เน้นใช้ขี่ในตัวเมือง หรือสภาวะปกติ กำลังเครื่องและการตอบสนองของคันเร่ง Ride by Wire ถือว่าเหมาะสม คันเร่งติดมือรวดเร็ว

ถ้าสะใจไม่พอมาที่ Mode A (Sport) ได้เลย ทุกครั้งที่คุณเปิดคันเร่ง กำลังเครื่องจะมาตามมือบิด ปิดคันเร่งที่เปิดกระแทกต่อ รู้สึกยังกับมีระเบิดมือดีๆอยู่นี่เอง

ภาพรวมความต่างกับ MT-09 จะพบว่าคันเร่งช่วงออกตัวนั้น XSR900 ดูจะสมูทเนียนขึ้นกว่าเล็กน้อย ก็คือการเดินคันเร่งในรอบต่ำนั้นจะเรียนขึ้น ไม่ดิบเท่า MT แต่ด้วยม้าที่ตกลงเพียง 2 ตัวนั้น เราแทบจะไม่รู้สึกว่าสมรรถนะมันลดลงแต่อย่างใดเมื่อต้องลากรอบเข้าสู่ช่วง Redline มันยังดึงได้หน้าหงายต่อเนื่อง ในช่วงทางตรงสนามช้างฯ คุณสามารถซัดทะลุ 200 กม./ชม. ได้อย่างง่ายดาย รวมไปถึงช่วงที่เราซัดจาก เลี้ยวตรง 4 แยกไฟแดงก่อนจะถึงหน้าสนาม I-mobile ในช่วงถนนโล่งๆ ก็สามารถทำความเร็วได้แตะระดับ 190 กม./ชม. อย่างเหลือๆ และที่สำคัญ อาการหน้าส่ายที่พบในตระกูล MT กลับหายไปใน XSR900 ที่ทำความเร็วสูงได้มั่นใจมากขึ้นจากท่านั่งที่ดูสปอร์ตมากกว่า

ระบบกันสะเทือน XSR900 ใช้โช้คหน้า UpSideDown ขนาดแกน 41 มม. KYB และ โช้คหลัง Monoshock วางนอน

ตามที่ได้กล่าวไป ด้วยท่านั่งที่ดูสปอร์ตขึ้น ตามแบบฉบับรถ Sport Heritage ทำให้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีจากการใช้ความเร็วสูงที่นิ่งกว่าเดิม อาการส่ายหน้าไวหายไป

นอกจากนี้ยังสัมผัสอาการช่วงล่างหลังได้ว่า มันแน่นเฟิร์มและดีดขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะช่วงถนนที่ขรุขระ เป็นทางตรงยาวช่วงที่เราจะขี่เข้าตัวสนามช้างฯ Track ใหญ่

แม้ XSR900 นั้น ได้ความสปอร์ตขึ้น นิ่งขึ้น แต่จุดต่างสำคัญ คือ เรื่องท่านั่งตำแหน่งแฮนด์บาร์ที่ดูจะเลี้ยววงแคบได้ลำบากกว่า ความคล่องตัวจะสู้ MT Series ไม่ได้

ระบบเบรก ด้านหน้าจานดิสก์คู่ขนาด 298 มม. ปั๊มเบรก Radial คาลิปเปอร์ 4 สูบ จาก Advics (ปั๊มตราดาว) ด้านหลังแบบ คาลิปเปอร์ 1 สูบจาก Nissin โดยมีจานดิสก์ขนาด 245 มม. มาพร้อม ABS

เบรกจิกหนึบมือ ให้สัมผัสที่หนักแน่นเช่นเคย โดยรวมยังทำหน้าที่ได้ดีเหมือน MT-09 ไม่มีผิดเพี้ยน

เทคโนโลยี 2017 XSR900 ให้ Assist & Slipper Clutch มาด้วย ช่วยให้การลดเกียร์อย่างรวดเร็ว นั้นตัวรถ มีความมั่นคง ควบคุมได้ง่าย ไม่มีอาการล้อล๊อก พร้อมทั้งน้ำหนักคลัชเบาลง 20%

ขณะที่ TCS ที่เพิ่มเข้ามาปรับได้ 2 ระดับ สามารถปิด Off ได้
เมื่อเทียบกับ 2017 MT-09 ใหม่ จะเพิ่ม Assist & Slipper Clutch มาให้แบบ XSR900 แต่ MT-09 โฉมปัจจุบันจะยังไม่มีระบบนี้

สรุป 
Yamaha XSR900 คันนี้ ถือเป็นรถสไตล์ Sport Heritage คงความเรโทร แต่แฝงไปด้วยรูปลักษณ์ รวมถึงเทคโนโลยีร่วมสมัยไว้อย่างลงตัว ที่สำคัญใครว่ารถแนวนี้มักจะไร้ความจัดจ้าน บอกเลยว่าไม่ใช่ใน XSR900 คันนี้แน่นอน มันยังคงความแรงปลายไว้ได้ดี แม้คันเร่งช่วงต้นจะสมูทขึ้นก็ตาม

ด้านเทคโนโลยีนั้นถือว่าครบครันสำหรับการใช้งานแล้ว เรียกได้ว่า เจ้าเรโทรนีโอ คันนี้ ถือเป็นรถที่ครบเครื่องในทุกๆ ด้านจริงๆ และค่าตัวในระดับ 4.29 แสนบาท ก็แพงกว่า MT-09 โฉมปัจจุบันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

จุดเด่น
– รถสไตล์ Sport Heritage ที่มีสมรรถนะสูงขี่สนุก ไม่แพ้ร่าง Naked
– เทคโนโลยีครบครัน ให้มาเต็มกว่าโฉม Naked MT-09
– คันเร่งสมูท คุมง่ายกว่า MT-09
– การขี่ทำความเร็วสูงให้ความมั่นคงกว่า

จุดสังเกตุ
– ไฟหน้าฮาโลเจน น่าจะปรับเป็น LED ให้สอดคล้องกับไฟท้าย
– ท่านั่งที่สปอร์ตกว่า ทำให้การขี่ โดยรวมการควบคุมและคล่องตัว MT-09 โฉม Naked ทำได้ดีกว่า

ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver 9carthai
สุภิญญา ชำนาญกุล Photo
ขอขอบคุณ Yamaha Rider Club สำหรับกิจกรรมการทดสอบในครั้งนี้ครับ

Yamaha PR รับรางวัลธรรมาภิบาลธุรกิจดีเด่นระดับประเทศ ประจำปี 2559

มร.มิจิฮิโระ โออิชิ (คนกลาง) ผู้จัดการใหญ่ด้านการเงิน วางแผน และบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ขึ้นรับรางวัลโล่ประกาศเกียรติคุณธรรมาภิบาลธุรกิจดีเด่นระดับประเทศ ประจำปี 2559 จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับ หอการค้าไทย และสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยมี ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย (คนขวา) องคมนตรี และนางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ (คนซ้าย) อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้เกียรติมอบรางวัล โดยพิธีมอบรางวัลนี้ จัดขึ้น ณ สำนักงาน คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ถนนสนามบินน้ำ) ห้องประชุมนนทบุรี 1 จ.นนทบุรี เมื่อเร็วๆ นี้

Yamaha จัดแสดงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Yamaha E-Vino ในงานสัมมนาฯ ไทยแลนด์ 4.0

นายสมเกียรติ พูลขวัญ (คนที่ 4 จากขวา) รองผู้จัดการใหญ่ด้านบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ให้การต้อนรับ พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล (คนกลาง) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะฯ ซึ่งให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Yamaha E-Vino ที่ร่วมจัดแสดงยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อแสดงถึงนวัตกรรมแห่งอนาคต ในพิธีเปิดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อเตรียมการจัดทำทิศทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อรองรับไทยแลนด์ 4.0 โดยการจัดแสดงนี้จัดขึ้น ณ โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพฯ ฟอร์จูน ถนนพระราม 9 เมื่อเร็วๆ นี้